เมื่อเวลา 18.35 น. วันที่ 2 ก.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถึงกระบวนการจัดหาวัคซีนว่า รัฐบาลตั้งใจทิ้งวัคซีนคุณภาพลงกลางอ่าวไทย โดยวันที่ 25 ส.ค.2563 ไฟเซอร์แจ้งหน่วยงานต่างประเทศของไทย หลังไม่ได้รับการตอบกลับจากกรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ที่ติดต่อเจรจาเรื่องวัคซีนตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีเดียวกัน

เขา กล่าวว่า ทั้งที่รัฐบาลอื่นต้องตามวัคซีน เพราะทุกคนต้องการวัคซีนคุณภาพหลากหลายและพอเพียง แต่รัฐบาลไทยเกียร์ว่าง เฉยเมยและตั้งใจที่จะไม่พิจารณาม้าตัวนี้เลย ดังนั้น นี่จึงไม่ใช่การแทงม้าตัวเดียว แต่เป็นการล็อคผลม้า ซึ่งไฟเซอร์ ต้องมาถามไทยว่าตกลงแล้วคุณจะเอาหรือไม่

หัวหน้าพรรคก้าวไกล เผยว่า ต่อมา 19 พ.ย. 2563 มีการหารือกับไฟเซอร์ครั้งที่ 2 โดยทางไฟเซอร์ขอให้ไทยเร่งพิจารณาตัดสินใจโดยเร็ว เนื่องจากมีความต้องการสูงทั่วโลก จึงจะเห็นว่าไฟเซอร์แทบเอาวัคซีนใส่พานให้รัฐบาลไทยด้วยซ้ำ

ส่วนโครงการโคแวกซ์ พิธา ได้เปิดอีเมล์ระบุเป็นเอกสารการสื่อสารระหว่างรัฐบาลไทยกับโครงการโคแวกซ์ เขา กล่าวว่า เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า โคแวกซ์เป็นห่วงคนไทยกว่ารัฐบาลไทยเสียอีก โดยโคแวกซ์ส่งข้อความมาหารัฐบาลไทยว่า “การที่เราช้าไปหนึ่งวันนั้น จะทำให้ประชาชนเสียชีวิตมากแค่ไหน และเศรษฐกิจพังพินาศขนาดไหน”

พิธา ระบุ "แต่คุยกันอยู่ดีๆ กันยา ตุลา พฤศจิกา อยู่ดีๆก็หาย LINE ไม่ตอบ หายไปเลย 1 เดือน วันที่ 5 พ.ย.ไทยบอกจะประชุมออนไลน์กับโคแวกซ์ กระทั่งวันที่ 18 พ.ย.โคแวกซ์ส่งข้อความมาว่า ช่วยตอบหน่อยมันจะหมดเวลาแล้ว ตกลงจะเอายังไง จนวันที่ 9 ธ.ค.โคแวกซ์ ต้องส่งอีเมล์มาถามอีกครั้งว่า ตกลงแล้วไทยจะเข้าร่วมหรือไม่ นั่นก็เท่ากับการเทโคแวกซ์ ทิ้งกลางอ่าวไทยอีกรอบหนึ่ง เกียร์ว่างและไม่มีมารยาทในการทำงาน”

-อัดรัฐบาลตีสองหน้า ต้องขอบริจาควัคซีน

พิธา กล่าวว่า วันที่ 24 เม.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่ามีความมั่นใจว่าจะได้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าตามกำหนด ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ชื่นชมคุณภาพวัคซีนไทย ระบุ พร้อมส่งในเดือน มิ.ย. แต่หลังจากแล้ว 2 วันถัดได้ รัฐบาลไทยกลับขอรับบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 ล้านโดส จากต่างประเทศ และอีก 2 วันต่อมา ขอรับเพิ่มอีกเป็น 10 ล้านโดส

“ต่อหน้าตะพลับ ลับหลังตะโก ปากกล้าขาสั้น ตีสองหน้า คือบอกกับประชาชนว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่เบื้องหลังคือไปรับบริจาค”

พิธา กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลไทยได้ขอรับบริจาควัคซีนจากต่างประเทศ มีประเทศหนึ่งตอบกลับมาว่า “ก็ประเทศคุณเป็นประเทศที่ผลิตแอสตร้าเซนเนก้าไม่ใช่หรือ มาขอรับบริจาคทำไม งั้นขอดูกระบวนการผลิตของประเทศคุณหน่อยได้ไหม ซึ่งสุดท้ายเขาบอกให้ไปขอรับบริจาคกับโคแวกซ์”

ไม่นานนักรัฐบาลไทย ไปขอวัคซีนกับอีกสถานทูตหนึ่ง ชื่อวัคซีนสโนว์ฟี่ของประเทศฝรั่งเศส แต่สถานทูตแห่งนั้นตอบกลับมาว่า จะบริจาคผ่านโคแวกซ์เท่านั้น นั่นจึงทำให้เกิดความเสียหายทั้งรัฐบาลและประชาชน ที่มีโอกาสจะได้รับวัคซีนทั้งแอสตร้าเซนเนก้า สโนว์วฟี่ หลังไทยปฎิเสธร่วมโคแวกซ์โคแวกซ์

• ขอไฟเซอร์แก้กฎเกณฑ์

พิธา ยังกล่าวถึงความล้มเหลวการฑูตด้านวัคซีน โดยมี 2 กระทรวงเกี่ยวข้องคือกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่ง วันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ หย่าศึกระหว่างบัวแก้วและกระทรวงสาธารณสุข แต่เบื้องหลังคือเป็นการบูรณาการกันไม่ได้

พิธา เปิดเอกสาร วันที่ 1 มิ.ย. รัฐบาลไทยติดต่อไปยังทำเนียบขาว สหรัฐฯ ให้ไปบอกผู้บริหารไฟเซอร์ ให้ยกเว้นกฎ 1 ประเทศ 1 สัญญาเพื่อที่จะสามารถเจรจาได้ทั้ง 2 กระทรวง ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็งงว่า แล้วเหตุใดไม่คุยกันให้รู้เรื่องตั้งแต่ต้นทาง เพราะเขาดูแลเป็นกว่าร้อยประเทศ จะแก้กฎเกณฑ์เพื่อไทยประเทศเดียวได้อย่างใร

“และยังเป็นการทำแบบไม่เป็นทางการ โดยไม่มีโทรเลขจากกระทรวง หรือแอบทำ"

“คงเข้าใจแล้วว่าทำไมประเทศไทยถึงเป็นแบบนี้ ม้าตัวอื่นเททิ้ง ไม่อยู่ในสายตา พอม้าเต็งไม่มาตามนัด ม้ามืดเลยกลายเป็นม้าหลัก”

• สินบนซิโนแวค

ส่วนวัคซีนซิโนแวค พิธา ได้พูดถึงความไม่โปร่งใสของผู้บริหาร ว่า  ในปี 2002 ถึง 2011 บริษัทซิโนแวค มีประวัติการจ่ายสินบน ถ้ารองผู้อำนวยการ อย. ของจีนอยากได้บ้าน ก็ได้บ้าน อยากได้รถ ก็ได้รถ อยากได้บ้านนอกกรุงปักกิ่ง ก็ได้บ้านนอกกรุงปักกิ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่ CEO อย่างเดียว แต่เซลล์ใน 20 มณฑล มีเงินทอน โดยเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ซิโนแวค 5,351 โดส มีเงินทอน 2,241 เหรียญ จึงถามว่าการเลือกวัคซีนของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มองรอบด้านแล้วหรือยัง

• สินบนบริษัท ATK

สำหรับชุดตรวจ ATK พิธา กล่าวว่า  เข้ามาในประเทศไทย ช้าเกินไป น้อยเกินไป สายเกินไป นอกจากนี้ชุดตรวจของ Lepu ยังไม่มีความโปร่งใส เป็นบริษัทของจีน และยังมีออฟฟิศอยู่ในสหรัฐอเมริกา มีการลักลอบขายในสหรัฐด้วย นอกจากนี้  อย.สหรัฐอเมริกา ยังส่งหนังสือไปที่ Lepu ประเทศจีน ว่ามีปัญหาในการแปลผล

“ส่วนผู้ถือหุ้น 51% เป็นคนไทย เป็นนักจิตแพทย์ที่เพิ่งเข้ามาจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้น 4 วัน ก่อนการยื่นประมูล ขณะที่คนเก่าลาออก 4 วันก่อนยื่นประมูล ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย เป็นบริษัทรัสเซีย 2 บริษัท จดทะเบียนที่ประเทศ Belize ประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการฟอกภาษี นอกจากนี้บริษัทนี้ยังมีประวัติการติดสินบน หมอในต่างประเทศให้โฆษณาชักจูงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ คำถามถึงรัฐบาลคือถ้ามาตรฐานท่านเป็นแบบนี้ น่าเชื่อถือหรือไม่ ผมอยากให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน”

ในท้วงท้าย พิธา กล่าวถึงการชุมนุม ระบุว่า “ผมเข้าใจถึงคนที่ออกมาชุมนุมในตอนนี้ ความเคียดแค้นเป็นความรู้สึกที่พิเศษ มันไม่ใช่ความเศร้าความโกรธความโมโห มันเป็นความแค้นที่โดนกดอยู่ในใจ เศรษฐกิจก็ไม่ได้ ญาติพี่น้องก็เสียชีวิต เพื่อนก็ไม่ได้ จบมาก็ไม่มีงานทำ พอออกมาเรียกร้องขอวัคซีนที่ดีขึ้น ขอให้เยียวยา ให้นายกรัฐมนตรีออกมาสู้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมา อย่าเอาสถาบันมาอ้างเป็นเกาะกำบัง แต่กลับทำตรงกันข้าม”

พิธา กล่าวว่า เมื่อเขาออกมาเรียกร้องก็เห็นเขาเป็นศัตรู เอาอาวุธยิงใส่เขา กลายเป็นคู่ขัดแย้ง ทำให้ประเทศไทยมีวิกฤตแบบซ้อนวิกฤต  

“คราวที่แล้วผมถามสภาแห่งนี้ผิดว่า จะเลือกระหว่างประยุทธ์หรือประเทศ และถามแคบไป คำถามใหม่ที่ควรจะต้องถามคือ เราต้องเลือกระหว่างประชาชนกับปรสิตที่มันกัดกินประเทศของเราอยู่ทุกวันนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเอามัจจุราชในทำเนียบรัฐบาลออกจากประเทศของเรา และปล่อยให้ประเทศของเราเดินหน้าไปได้เสียทีหนึ่ง”