นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่สะสมประสบการณ์การร่างรัฐธรรมนูญมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และยังไปศึกษารัฐธรรมนูญของหลายๆ ประเทศ และนำแนวคิดของเขามาใช้แบบถูกบ้างผิดบ้าง เชื่อว่าไทยไม่ขาดแคลนองค์ความรู้ในการทำให้กติกาดีขึ้น แต่ที่ยากคืออาจยังไม่ตระหนักว่ากติกาที่เป็นธรรมจะนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทยได้อย่างไร การแก้รัฐธรรมนูญจึงมีความท้าทายอยู่ 3 เรื่องดังนี้
1. ทำอย่างไรจะมีการเสียสละความได้เปรียบทางการเมืองของตน เพื่อทำให้ประเทศไทยได้เปรียบและมีกติกาที่เอื้อให้เกิดการเมืองสุจริตและมีประสิทธิภาพ การเลือกตั้งที่เป็นธรรมและมีความหมาย ทำให้การเข้าสู่อำนาจบริหารและนิติบัญญัติยึดโยงกับประชาชน
2. ทำอย่างไรจะมีกระบวนการรับฟังความต้องการของประชาชนว่าต้องการเห็นการแก้ไขในเรื่องใดบ้าง
3. ทำอย่างไรจะไม่กล่าวหาใส่ร้ายกันในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากมนุษย์สามารถใช้เหตุผลและแลกเปลี่ยนความเห็นโดยใช้ ปัญญาและลดการกล่าวหาได้ เพราะท้ายที่สุดการแก้จะสำเร็จหรือไม่ ต้องใช้เสียงจากทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว. ในรัฐสภาอันทรงเกียรติ
“ส่วนตัวเห็นว่าความจริงใจและความพร้อมที่จะร่วมทำกติกาให้เป็นธรรม และบรรลุเป้าประสงค์ข้างต้นสำคัญกว่าตัวผู้จะมานั่งเป็นประธาน กมธ. พี่น้องประชาชนคงจะติดตามท่าทีของแต่ละพรรคการเมืองต่อไปว่า การแก้ รธน. นั้นบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเป็น เพียงวาทกรรม หรือเป็นวาระที่จะทำ และจะเปลี่ยนวาระในกระดาษ เป็นวาระแห่งชาติหรือไม่” นพดล กล่าว