ไม่พบผลการค้นหา
กสม. ออกแถลงการณ์ กรณีที่ กสทช. จะมีการพิจารณาการควบรวม 'ทรู-ดีแทค' ในวันพรุ่งนี้ โดยขอให้มีการเปิดเผยผลการศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมธุรกิจต่อสาธารณะ หวังธุรกิจโทรคมนาคม แข่งขันเสรี ไม่ผูกขาด

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ กรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่างบริษัททรูคอปอเรชั่นและดีแทค โดยมีใจความทั้งหมดดังนี้

ตามที่มีการประกาศควบรวมกิจการในธุรกิจโทรคมนาคมระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ทรู) และบริษัท โทเทิ่ล แอ๊คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ดีแทค) ส่งผลให้เกิดกระแสคัดค้านจากนักวิชาการ สภาองค์กรของผู้บริโภค และเครือข่ายองค์กรของผู้บริโภค ด้วยความกังวลด้านผลกระทบต่อประสิทธิภาพการแข่งขันและการมีอำนาจเหนือตลาดในธุรกิจโทรคมนาคมอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งการควบรวมกิจการอาจส่งผลต่อทางเลือกของผู้บริโภค ที่นำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านดิจิทัล และราคาค่าบริการที่ไม่เป็นธรรม โดยที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้มีการควบรวมกิจการหรือไม่ ในวันที่ 20 ต.ค. 2565 นั้น

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชน จัดทำรายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน รวมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ได้ติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการโทรคมนาคมของทรูและดีแทคมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเครือข่ายสลัม 4ภาคและผู้แทนสภาองค์กรของผู้บริโภคได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกรณีดังกล่าวต่อ กสม. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565

กสม. เห็นว่าบริการโทรคมนาคมเป็นบริการจำเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของประชาชนผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน การควบรวมกิจการของบริษัทโทรคมนาคมทั้งสองแห่ง ซึ่งเป็นกิจการประเภทเดียวกัน อาจเข้าข่ายเป็นการผูกขาดและมีอำนาจเหนือตลาด ทำให้ผู้บริโภคขาดทางเลือกหรือมีทางเลือกน้อยลง โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มชายขอบ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล มีอุปสรรคในการเข้าถึงบริการโทรคมนาคม (สัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่) และมีรายได้น้อยอยู่แล้ว อาจต้องเสียค่าบริการในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชน ด้วยเหตุดังกล่าว กสม. จึงมีข้อเสนอแนะต่อการพิจารณาควบรวมกิจการบริษัทโทรคมนาคมทั้งสองแห่ง ดังนี้

1. ขอให้ยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชน และประโยชน์สาธารณะ ตามมาตรา 60 วรรคสอง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560

2. ขอให้เปิดเผยผลการศึกษาของที่ปรึกษาอิสระจากต่างประเทศ ที่สำนักงาน กสทช.จัดจ้างให้มีการศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทคต่อสาธารณะ และนำผลการศึกษามาประกอบการพิจารณาด้วย

3. ขอให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการควบรวมกิจการดังกล่าวอย่างกว้างขวาง รวมทั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ เพื่อให้การประกอบธุรกิจด้านกิจการโทรคมนาคม เป็นไปอย่างมีธรรมาภิบาล สามารถแข่งขันกันได้อย่างเสรี ไม่ผูกขาดอำนาจเหนือตลาด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้บริโภค

อันจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นธรรมและยั่งยืนต่อไป