นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับการช่วยผู้บริโภคข้าวเหนียวที่ราคาสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตขาดแคลนเนื่องจากภาวะภัยแล้งและเป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยวนั้น ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน จัดโครงการเร่งด่วนช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภคข้าวเหนียวทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ซึ่งบริโภคข้าวเหนียวและได้รับความเดือดร้อนระหว่างนี้ นั้น ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้ดำเนินการใกล้เสร็จแล้ว

โดยข้าวเหนียวถุงล็อตแรกพร้อมออกสู่ตลาด วันที่ 11 กันยายน 2562 นี้ ซึ่งการช่วยบรรเทาทุกข์ประชาชนที่บริโภคข้าวเหนียวระหว่างนี้จะเริ่มกระจายสินค้าไปถึงร้านธงฟ้าทั่วประเทศ และตนจะเป็นประธานเปิดโครงการนี้ ในวันที่ 11 กันยายน 2562 เวลา 10.30 น.ที่กระทรวงพาณิชย์

ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ ได้กำหนดเงื่อนไขการวางจำหน่ายข้าวสารเหนียวบรรจุถุง โดยเริ่มแรกจะกระจายในร้านธงฟ้าทั่วประเทศ จากนั้นก็จะนำบางส่วนไปจำหน่ายในห้างค้าปลีก โดยในร้านธงฟ้าอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาซื้อได้ แต่กำหนดห้ามเกินคนละ 2 ถุง เพื่อป้องกันการสวมรอยแล้วนำไปจำหน่ายต่อ 

ส่วนห้างค้าปลีกจะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อเท่านั้น โดยราคาข้าวสารเหนียวจะถูกกว่าท้องตลาด 10-15 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) สำหรับข้าวเหนียวถุง 2 กิโลกรัม มีราคา 70 บาทต่อถุง และถุง 5 กิโลกรัม มีราคา 160 บาทต่อถุง ซึ่งค่าเฉลี่ยต่อถุง 5 กิโลกรัม จะมีราคาถูกกว่า เพราะมีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่า

ขณะนี้ การผลิตลอตแรกใกล้เสร็จแล้ว ตั้งเป้าผลิต 200,000-300,000 ถุง และกำลังจะจัดส่งกระจายไปยังร้านธงฟ้า โดยเน้นในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ที่มีผู้บริโภคข้าวเหนียว มั่นใจว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภคข้าวเหนียวในช่วงนี้ได้     

"ในวันที่ 11 กันยายน นี้รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ จะมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการดังกล่าว เพื่อลดปัญหาค่าครองชีพและลดความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่บริโภคข้าวเหนียว เบื้องต้นหากพบว่าผู้ใดไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือคนทั่วไปที่ซื้อแล้วมาจำหน่ายต่อไปขายเกินราคาที่ติดไว้หน้าถุง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด" นายวิชัย กล่าว

สำหรับราคาข้าวเหนียวขณะนี้ทรงตัวแล้ว โดยข้าวสารเหนียวกิโลกรัมละ 40-45 บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียวตันละประมาณ 20,000 บาท เมื่อผลผลิตฤดูกาลใหม่ทยอยออกในช่วงเดือน ต.ค.นี้ เป็นต้นไป คาดว่าสถานการณ์ราคาข้าวเหนียวแพงจะคลี่คลาย

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์กรมการค้าภายในระบุว่า ราคาข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ปี 2561/2562 ณ วันที่ 5 กันยายน อยู่ที่ตันละ 17,400-20,000 บาท ส่วนราคาข้าวสารเหนียว 10 เปอร์เซ็นต์ เมล็ดยาว (ใหม่) ตันละ 42,500-42,600 บาท โดยเฉลี่ยราคา ไม่เปลี่ยนแปลงเทียบกับช่วงสัปดาห์ ที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ปชช. ส่วนใหญ่คิดว่า 'ภัยแล้ง' เป็นสาเหตุให้ข้าวเหนียวราคาแพง
• กรมการค้าภายใน แจงข้าวเหนียวนึ่งแพง เหตุข้าวสารเหนียวราคาพุ่ง 98%
• พาณิชย์จับมือโรงสีขายข้าวเหนียวถุง ก.ก.ละไม่เกิน 35 บาท บรรเทาปัญหาข้าวแพง