ไม่พบผลการค้นหา
ประธาน นปช. ลั่นวิบากกรรม นปช.ยังไม่สิ้น รวมถึงวิบากกรรมประเทศไทยด้วย ถ้ายังไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้กล่าวในหัวข้อ “วิบากกรรม นปช.ยังไม่สิ้น” ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว ชั้น 5 ว่า แม้ว่าในการพิพากษาศาลชั้นต้นได้ยกฟ้อง คดีก่อการร้าย นปช. เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา แต่ตนก็ได้พูดแล้วว่า ไม่ใช่เรื่องที่เราจะดีใจกัน คดีความยังไม่ยุติ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เรามักจะเจอเรื่องทุกข์ สุข สลับกันอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อเวลาชนะ ทำตัวเหมือนคนแพ้ เมื่อแพ้ก็ทำเหมือนชนะ ในส่วนของคดีก่อการร้ายนั้นยังไม่ยุติ เพียงแค่ศาลชั้นต้นเท่านั้น ยังมีอีก 2 ศาล

ที่ผ่านมา 2 ศาลแรกยกฟ้อง มาถึงศาลที่สามติดคุก ตนก็ผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด คือเราต้องรู้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ เราต้องทำความเข้าใจในวิบากกรรมคดีความเหล่านี้ 

นอกจากนี้ ในระยะเวลาอันใกล้ เรายังมีอีก3 คดีในศาลฎีกาที่ได้นัดอ่านคำพิพากษา ได้แก่ วันที่ 20 สิงหาคม 2562 มีคดีหมิ่นประมาท เป็นคดีส่วนตัว ที่ต่างฝ่ายต่างถอนแจ้งความกันแล้ว อันนี้ไม่เป็นเรื่องน่ากังวล ต่อมาในวันที่ 11 กันยายน 2562 ศาลฎีกาพัทยา นัดอ่านคำพิพากษาคดี ล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท เมื่อปี 2552 ซึ่งมีพรรคพวกเราเป็นจำเลยถึง 13 คน ในศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ ได้พิพากษาจำคุก 2 ปีเศษ และศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดี บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในวันที่ 23 กันยายน 2562 ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ ก็ได้พิพากษาจำคุก 2 ปีเศษ เช่นเดียวกันสองคดีนี้ก็เป็นเรื่องที่เราต้องติดตาม ให้กำลังใจกัน 

นายจตุพร ยังได้กล่าวในหัวข้อ “ปัญหาชาติบ้านเมือง” ด้วยว่า กรณีเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมกันเดินหน้าเพื่อให้เกิดสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.โดยจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม โดยให้ยกเลิกความในมาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เพื่อเปิดประตูให้มีการแก้ไขให้ง่ายขึ้น ตนคิดว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ยาก เนื่องจากผูกพันกับสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. จะให้ ส.ว.มาร่วมโหวตให้ตัวเองเสียประโยชน์ได้อย่างไร และจะเป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลชุดปัจจุบันอยู่ยาวไปอีก

ตนคิดว่ากระบวนการให้ได้มาซึ่ง ส.ส.ร.เราต้องมาตั้งหลักกันใหม่ วันนี้ถ้าพรรคการเมืองไม่ร่วมมือกับภาคประชาชน แล้วให้ภาคประชาชนเป็นผู้นำการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีทางสำเร็จ ต้องให้ภาคประชาชนเป็นผู้นำสร้างกระแสให้ได้เหมือนกระแสธงเขียวในช่วงก่อนได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญ 2540 เท่านั้น ความหวังในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงจำเป็นไปได้ และแก้ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงบางมาตราด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ละมาตราผูกพัน เกี่ยวเนื่องกัน

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ทั้งประเทศไทยและ นปช. มีวิบากกรรมเหมือนกัน แต่คนละเรื่องถ้ารัฐบาลมีสติฝ่ายค้านมีความเข้าใจ ถ้าประชาชนได้ขยับเดินกันไป โดยไม่จำเป็นต้องเกิดการกระทบกระทั่ง อย่างไรก็ตามปัญหาของชาติไม่มีทางจะแก้ไขได้เลย หากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เปิดประตูให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเข้าไปแก้รัฐธรรมนูญ ในวันนี้ชัดเจนแล้วว่าปัญหาปากท้อง อย่างไรก็แก้ไม่ได้ ประเทศนี้จะให้มาแก้ปัญหาทีละเรื่อง คงไม่ทันต้องทำไปพร้อม ๆ กัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของรัฐบาล แต่อย่างไร หัวใจหลักของปัญหาประเทศนี้ ก็คือ รัฐธรรมนูญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: