กองทัพอากาศศรีลังกายืนยันรายงานว่า ราชปักษาในวัย 73 ปี ได้ขึ้นเครื่องบินกองทัพอากาศศรีลังกา เพื่อเดินทางออกนอกประเทศ ก่อนที่เครื่องบินจะลงจอดยังมัลดีฟส์ พร้อมกันกับภรรยาของตน และองครักษ์อีก 2 คน โดยเครื่องบินที่ราชปักษาใช้ลี้ภัยได้ลงจอดยังกรุงมาเล เมืองหลวงของมีลดีฟส์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 3.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
การลี้ภัยออกนอกประเทศของราชปักษาในครั้งนี้ เป็นการปิดตำนานการสืบทอดอำนาจอันยาวนานของตระกูลราชปักษา ที่ครอบครองศรีลังกามานานสองทศวรรษ ทั้งนี้ ศรีลังกาประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ประเทศได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรเมื่อ 70 ปีก่อน สืบเนื่องจากการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของราชปักษา ทั้งการกู้ยืมเงินต่างประเทศที่ล้นเกิน ตลอดจนการจัดการสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่ผิดพลาด จนไม่สามารถตอบรับกับอัตราเงินเฟ้อได้
จากรายงานก่อนหน้านี้เปิดเผยว่า ราชปักษาหลบซ่อนตัวอยู่บนเรือของกองทัพที่จอดอยู่กลางทะเล ในขณะที่ประชาชนชาวศรีลังกาเข้ายึดทำเนียบประธานาธิบดีเอาไว้ และประกาศว่าพวกตนจะไม่ยอมถอยออกจากทำเนียบ จนกว่าราชปักษาจะลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ราชปักษาสัญญากับประชาชนผ่านคำแถลงของรัฐสภาว่า ตนจะลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ อย่างไรก็ดี ยังไม่เคยมีใครได้ยินคำกล่าวยืนยันดังกล่าวจากปากของราชปักษาเอง โดยสำนักขาวรอยเตอร์สรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ว่า รัฐสภาศรีลังกายังคงไม่ได้รับหนังสือลาออกจากทางราชปักษา ที่จะส่งมายังรัฐสภาแต่อย่างใด
นอกจากตัวราชปักษาที่เป็นประธานาธิบดีแล้ว สำนักข่าว BBC ยังได้รายงานอีกว่า ภาศิล ราชปักษา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังศรีลังกา ซึ่งเป็นน้องชายของราชปักษา ก็ได้เดินทางหนีออกนอกประเทศแล้วด้วยเช่นกัน โดยรายงานเบื้องต้นระบุว่า เครื่องบินของน้องชายประธานาธิบดีศรีลังกา กำลังมุ่งหน้าตรงไปยังสหรัฐฯ
การลี้ภัยทางการเมืองออกนอกประเทศของตระกูลราชปักษา เกิดขึ้นหลังจากที่ตระกูลราชปักษาลอยนวลพ้นผิดจากทุกข้อกล่าวหาทางการเมือง ตลอดจนการเดินหน้าดำเนินนโยบายบริหารประเทศที่ผิดพลาด จนทำให้ศรีลังกาล้มละลาย
มีการคาดการณ์ว่า ราชปักษาอาจจะทำการประกาศลาออกอย่างเป็นทางการนอกประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลชุดใหม่จับกุมพวกตนมาดำเนินคดี ทั้งนี้ รัฐสภาประกาศว่า หากราชปักษาลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ทางรัฐสภาศรีลังกาจะทำการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 20 ก.ค.นี้
ที่มา: