ประชาชนกว่า 5,500 คนในเมืองเดนเวอร์ มลรัฐโคโลราโดของสหรัฐอเมริกา ลงชื่อสนับสนุนข้อเสนอให้ปลดเห็ดเมา หรือเห็ดขี้ควาย ออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 1 ซึ่งเป็นยาเสพติดที่ให้โทษร้ายแรง และเปิดโอกาสให้ผู้เสพเห็ดเมาสามารถเพาะปลูกและใช้ภายในครัวเรือนได้ เพื่อเป็นทางเลือกในการบรรเทาอาการเครียดหรือซึมเศร้า

เควิน แมทธิว ผู้รณรงค์โครงการปลดล็อกเห็ดเมา เปิดเผยกับรายการข่าวเอ็นบีซีนิวส์เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2562 ว่า เห็ดเมา หรือ psilocybin (ในไทยเรียกว่า 'เห็ดขี้ควาย') มีฤทธิ์หลอนประสาท แต่ถ้าใช้ในปริมาณที่ควบคุมและได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยทำให้ผู้ใช้เห็ดเมารู้สึกผ่อนคลายและบรรเทาภาวะเครียดm รวมถึงอาการหดหู่ของกลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคที่ไม่มีทางรักษาหาย 

หลังจากแมทธิวเริ่มรณรงค์โครงการปลดล็อกเห็ดเมาด้วยการล่ารายชื่อพลเมืองในเดนเวอร์ที่มีสิทธิออกเสียงให้แก้ไขกฎหมายท้องถิ่น ปรากฏว่ามีผู้ลงชื่อสนับสนุนโครงการนี้มากกว่า 5,500 รายภายในเวลาไม่นาน และคณะกรรมการเลือกตั้งของสภาบริหารท้องถิ่นในเมืองเดนเวอร์ขอเวลาตรวจสอบรายชื่อทั้งหมดว่าถูกต้องและมีหลักฐานยืนยันครบถ้วนหรือไม่ภายในเวลา 25 วัน หากรายชื่อทั้งหมดได้รับการยืนยันแล้ว จะดำเนินการจัดลงคะแนนให้ได้ภายในวันที่ 7 พ.ค. 2562

• บัญชีทวิตเตอร์ของคณะกรรมการการเลือกตั้งเดนเวอร์ เผยแพร่ข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรายชื่อและกำหนดวันลงคะแนนเรื่องปลดล็อกเห็ดเมาได้ประมาณวันที่ 7 พ.ค. 2562

ขณะเดียวกัน แมทธิว ดับเบิลยู จอห์นสัน นักวิชาการด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมศาสตร์ สถาบันการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ของสหรัฐฯ ยอมรับว่าเห็ดเมามีแนวโน้มที่จะช่วยบรรเทาอาการเครียดได้ แต่ขณะเดียวกันอาจทำให้ประชาชนทั่วไปเสี่ยงต่อการเมาหรือหลอนประสาทอย่างรุนแรง รวมถึงควบคุมสติไม่อยู่ 

ส่วนชาลส์ กร็อบ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ สนับสนุนการรณรงค์เข้าชื่อให้ปลดล็อกเห็ดเมา โดยอ้างอิงงานวิจัยของตนเอง ซึ่งระบุว่า เห็ดเมามีแนวโน้มที่จะนำไปใช้ในการบรรเทาอาการเครียดและซึมเศร้าได้ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้และรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจการใช้งานเห็ดชนิดนี้ พร้อมระบุว่า การพิจารณาอนุญาตให้เพาะปลูกหรือเสพได้ จะต้องศึกษาวิจัยและเรียนรู้ผลข้างเคียงของเห็ดเมาอย่างละเอียดเสียก่อน

ผู้รณรงค์และผู้ลงชื่อสนับสนุนให้ปลดล็อกเห็ดเมาในเดนเวอร์จำนวนมากระบุว่า การพิจารณาปลดเห็ดเมาจากบัญชียาเสพติดประเภท 1 ได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวเรื่องกัญชาถูกกฎหมายในหลายรัฐทั่วประเทศ

ที่มา: Huffington Post/ NBC News

ภาพจาก: Wikipedia