ปัจจุบันนี้ สหภาพยุโรปนำเข้าก๊าซจากรัสเซียกว่า 40% ของการใช้งานทั้งหมดในภูมิภาค ถึงแม้ว่าสหภาพยุโรปจะตกลงในการลดการพึ่งพาน้ำมันรัสเซียให้ได้ 90% ภายในสิ้นปีนี้ แต่สำหรับการตัดสินใจแบนก๊าซจากรัสเซียของสหภาพยุโรปนั้น ยังคงอยู่ห่างไกลจากความเป็นจริง
สหรัฐฯ และหลายชาติตัดสินใจคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานทั้งหมดจากรัสเซีย สืบเนื่องมาจากการเข้าทำสงครามรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยสงครามยูเครนดำเนินมาแล้วกว่า 106 วัน และรัสเซียยังคงเดินหน้าการรุกรานยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สมรภูมิในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไปบนพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน
อย่างไรก็ดี การถูกคว่ำบาตรพลังงานของรัสเซีย อาจทำให้รัสเซียสามาถทำกำไรจากการค้าขายพลังงาน ที่มีราคาพุ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลก จนส่งผลให้รัสเซียยังคงทำกำไรจากการขายพลังงานได้ โดยเฉพาะการค้าพลังงานกับชาติฝั่งเอเชียที่ไม่มีมาตรการคว่ำบาตรพลังงานใดๆ ต่อรัสเซีย และยินดีที่จะซื้อพลังงานจากรัสเซียซึ่งมีส่วนลดราคาถูกไปในตัว
“ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกกำลังลดลง ในขณะที่ราคากลับสูงขึ้น” ปูตินกล่าวกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ “ผลกำไรของบริษัทก็เพิ่มขึ้นด้วย” ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเสริม ในขณะที่ อามอส ฮอชสไตน์ คณะทำงานความมั่นคงด้านพลังงานสหรัฐฯ ยอมรับกับสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า รัสเซียจะสามารถสร้างรายได้จากพลังงานฟอสซิลที่มากกว่าก่อนการเกิดขึ้นของสงคราม “ผมปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้” ฮอชสไตน์กล่าวกับวุฒิสภาสหรัฐฯ
อ่าน ‘ส่องรัสเซีย หวั่นใจไทย ราคาน้ำมันในวันที่สงครามยูเครนยังไม่จบ’ ได้ที่: https://voicetv.co.th/read/ivMB3fr0h
ที่มา: