วันที่ 23 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย ภายหลังการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ โดยมี แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียง
จากนั้นในเวลา 15.40 น. ดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้แถลงผลการประชุมซึ่งมีมติแต่งตั้งรองโฆษกฯ อีก 4 คน ประกอบด้วย
-ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค
-ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด
-ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ
-จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ อดีตผู้สมัคร สส.กทม.
โดย ดนุพร กล่าวว่า การแต่งตั้งทีมโฆษกในครั้งนี้เป็นไปเพื่อการทำงานด้านการสื่อสารให้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้นในทุกมิติ ทุกทิศทาง ทั้งช่องทางหลัก และช่องทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม วันนี้ก่อนการประชุมส.ส.ของพรรค ได้มีการประชุมส.ส.แต่ละภาคก่อน ซึ่งน.ส.แพทองธารได้เข้าร่วมด้วยและรับฟังปัญหาของประชาชนจากส.ส. ทั้งเรื่องการแก้หนี้นอกระบบ เรื่องยาเสพติด รวมถึงปัญหาต่างๆ ซึ่งหากมีอะไรที่เป็นจุดอ่อนก็จะได้นำไปปรับปรุงต่อ
ทั้งนี้ เมื่อน.ส.แพทองธารได้รับฟังปัญหาแล้วก็บอกว่าจะนำไปประสานกับทางทำเนียบรัฐบาลไม่ว่าจะเป็น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีของพรรค พท. หรือแม้กระทั่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นพรรคร่วม เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไป
“วันนี้เราพยายามจะเชื่อมพรรค สภาฯ และทำเนียบรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้แกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ฉะนั้น ปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ“ ดนุพร กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในโซเชียลมีเดียถึงเรื่องการสื่อสารของพรรคที่ค่อนข้างล่าช้า ดนุพร กล่าวว่า เราปรับมาตลอด โดยปัญหาในทีมโฆษกต้องยอมรับว่า เราขาดคนทำงาน เพราะเมื่อสมัยที่ผ่านมาเราเป็นฝ่ายค้าน และทีมโฆษกโฟกัสจุดเดียวคือเราเป็นฝ่ายค้าน แต่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราเป็นรัฐบาล
ดังนั้น หลายคนที่อยู่ในทีมสื่อสาร หรือทีมโฆษกของพรรคต้องแยกเป็นหลายกลุ่ม คือกลุ่มสื่อสารของทำเนียบรัฐบาล ดูแลการสื่อสารของนายกรัฐมนตรี กลุ่มของพรรค และกลุ่มของสภาผู้แทนราษฎร
ดนุพร เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยขาดกำลังคนที่จะมาช่วยเสริมทีมเรื่องการสื่อสาร ซึ่งเรื่องนี้ แพทองธาร ได้เรียกประชุมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เกี่ยวกับการสื่อสาร และพยายามเพิ่มกำลังคนที่จะช่วยทำงาน รวมถึงเพิ่มศักยภาพต่างๆ เนื่องจากตอนนี้เรามีรองโฆษกแล้วก็จะช่วยกันมอนิเตอร์ข่าว ช่วยกันสื่อสาร และสิ่งที่ทำเพิ่มมี 2 กลุ่มคือ กลุ่มทีมสื่อสารของพรรคที่ช่วยมอนิเตอร์ข้อมูลเชิงลึก และกลุ่มสื่อสารระหว่างโฆษกรัฐบาล โฆษกพรรค และโฆษกกระทรวงต่างๆ ที่เป็นการทำงานเชิงลึกเพื่อให้ได้ข้อมูลมาพูดคุยกันก่อน
“ส่วนข้อคำติชมของเหล่าโหวตเตอร์ เรายินดีรับฟังทุกคำติชม และหวังว่าเราจะพัฒนาทีมสื่อสารให้รวดเร็วมากขึ้นและความถูกต้องของข้อมูล เพื่อเป็นข้อมูลที่ใช้อ้างอิงและตอบโต้กับเฟคนิวส์ต่างๆ ได้” ดนุพร กล่าว