นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ครั้งที่ 11/2562 เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่าที่ประชุม กอน. มีมติเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2562/2563 ในอัตราอ้อยตันละ 750 บาท ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส อัตราขึ้นลง อยู่ที่ 45 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส
โดยระดับความหวานเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 12.51 ซี.ซี.เอส จะได้รับในอัตราตันละ 862.91 บาท ซึ่งได้ผ่านกระบวนการประชุมรับฟังความคิดเห็น (ประชาพิจารณ์) จากเกษตรกรชาวไร่อ้อย โรงงานน้ำตาล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 เรียบร้อยแล้ว โดยจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนที่จะประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัจจุบันราคาน้ำตาลตลาดโลกตกต่ำอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการแกว่งตัวสูง ส่งผลให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับผลกระทบจากทั้งด้านราคาที่ตกต่ำและไม่คุ้มกับต้นทุนการปลูกอ้อยที่ตันละ 1,110 บาท
โดยในที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายมีผู้แทนฝั่งชาวไร่อ้อยได้เสนอให้ขอรับการช่วยเหลือเงินค่าอ้อยจากรัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้เสนอโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ฤดูการผลิตปี 2562/2563 กรอบวงเงินช่วยเหลือไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยเฉพาะชาวไร่อ้อยรายเล็กให้สามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่จำเป็น และมีผลตอบแทนเพียงพอ สำหรับนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพและการดำรงชีพของตนเองและครอบครัว ซึ่งจะก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจ อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม
นายเอกภัทร วังสุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้เตรียมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การเก็บเกี่ยวอ้อย การขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงานน้ำตาล พร้อมรณรงค์ไม่ให้ชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยด้วยวิธีการเผาไร่อ้อยก่อนตัดส่งเข้าโรงงานน้ำตาล ในฤดูการผลิตปี 2562/2563 รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ภาคที่ 1 – 4 เขตบริหารอ้อยและน้ำตาลทราย 1 - 8 และเจ้าหน้าที่ สอน. ที่ประจำโรงงานน้ำตาลทั้ง 57 แห่งทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และประสานการทำงานร่วมกับสมาคมชาวไร่อ้อย โรงงานน้ำตาลในพื้นที่ และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :