ไม่พบผลการค้นหา
แอมเนสตี้ฯ เผย ครบรอบห้าปีการหายตัวไปของ 'บิลลี่' นักกิจกรรมชาวกะเหรี่ยง หลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน และไม่มีผู้พบเห็นเขาอีกเลย ด้านภรรยาบิลลี่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "ครอบครัวยังคงรอคอยความยุติธรรม"

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์เรียกร้อง 'รัฐบาลชุดใหม่' ให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปรามการทรมานและอุ้มหาย ย้ำวันนี้ควรเป็นอีกวันที่เตือนให้รัฐบาลปัจจุบันและรัฐบาลใหม่ ตระหนักถึงพันธกรณีของตนในการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของประชาชน 

หลังจากบิลลี่ หรือ 'พอละจี รักจงเจริญ' หายตัวไป พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ 'มึนอ' ภรรยาของบิลลี่ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้มีการไต่สวนการหายตัวไปของบิลลี่ แต่ต่อมาศาลยกคำร้อง โดยระบุว่าหลักฐานไม่เพียงพอ จากนั้นมึนอได้ยื่นหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้เข้ามาตรวจสอบคดีนี้เป็นคดีพิเศษ จนกระทั่งปี 2561 ดีเอสไอได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และเริ่มสอบสวนเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2561

แคทเธอรีน เกอร์สัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า ในวาระครบรอบการหายตัวไปของบิลลี่ เน้นให้เห็นถึงภัยคุกคามร้ายแรงที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนต้องเผชิญ ทั้งยังเผยให้เห็นความล้มเหลวของรัฐในการอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย

“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องทางการไทยให้การประกันว่า จะดำเนินการสอบสวนคดีบิลลี่อย่างเป็นอิสระ ไม่ลำเอียงและรอบด้าน โดยต้องนำไปสู่การเยียวยาครอบครัวและผู้ได้รับผลกระทบทุกคนอย่างเต็มที่ รวมทั้งให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษด้วย”

“รัฐบาลใหม่ยังควรกำหนดให้การผ่านร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... เป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งร่างดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณา หลังมีการแก้ไขเนื้อหาให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย รัฐบาลใหม่ยังต้องปฏิบัติตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่จะให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการสูญหายของบุคคลโดยการบังคับและโดยไม่สมัครใจ ซึ่งได้มีการลงนามไปแล้ว”

“ท้ายนี้รัฐบาลต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายซึ่งยังคงอนุญาตให้มีการควบคุมตัวบุคคลในสถานที่ควบคุมตัวอย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการควบคุมตัวโดยไม่มีการแจ้งข้อหา หรือนำตัวมาไต่สวนในศาล”

บิลลี่.jpg
  • บิลลี่ หรือ 'พอละจี รักจงเจริญ' หายตัวไปนาน 5 ปีแล้ว

ด้านพิณนภาโพสต์ภาพจดหมายที่เขียนถึงสามีในเฟซบุ๊กระบุว่า ในวันสงกรานต์คนส่วนใหญ่คงสนุกสนานกัน แต่ครอบครัวของเธอยังคงรู้สึกเศร้า มีสนุกได้บ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่ผ่านมาชีวิตมีครบทุกรูปแบบ แต่อย่างไรเสียเธอยังหวังและรอคอยความยุติธรรมให้กับบิลลี่และครอบครัว

"ในวาระครบรอบ 5 ปีการหายตัวไปของบิลลี่ ทุกๆ ปีในช่วงสงกรานต์ เป็นวันที่ทุกๆ คนอยู่กับครอบครัวสนุกสนาน มีความสุขกับครอบครัวกัน มีส่วนน้อยที่ติดงานและไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว รวมถึงครอบครัวของฉัน สามีของฉัน ถูกทำให้หายไปในช่วงสงกรานต์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 โดยมีคนพบเห็นอยู่กับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นผู้สุดท้าย พร้อมกับรถเครื่องส่วนตัวสีเหลืองดำ พรบ. ขงพ. 988 กับกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งหมดหายไปอย่างไร้ร่องรอย เกิดเหตุที่ด่านมะเร็ว ปากทางเข้าหมู่บ้านโป่งลึก บางกลอย ข้อหานำน้ำผี้งป่าออกจากป่า

เพราะฉะนั้นช่วงสงกรานต์ของทุกๆ ปี ในขณะที่หลายๆ คนมีความสุขสนุกสนานกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ครอบครัวของฉันมีความรู้สึกทั้งเศร้าบ้าง เฉยๆ บ้างๆ สนุกกับเขาบ้างเพียงเล็กน้อยแค่นั้นเอง และยิ่งครบรอบห้าปีนี้ ยังมีพ่อที่คอยช่วยเหลือฉัน จนวินาทีสุดท้าย สูญเสียไปอีกท่าน ฉันคงต้องทนอีกนานที่ชีวิตนี้ต้องมีครบทุกรูปแบบ เศร้า เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด ร้อน แต่ยังมีความหวัง ทั้งยังรอคอยความยุติธรรมให้กับครอบครัวของฉัน

ทั้งฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขได้ ขอเพียงเราทุกคน แม้ว่าจะเป็นชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ หรือจะมียศมีตำแหน่งอะไร หันหน้าเข้ามาคุยเจรจากัน อย่าดีแต่คอยจ้องจับผิดชาวบ้าน และให้รัฐบาลพิจารณากฎหมายบุคคลให้ผ่านไวๆ ใช้อย่างเคร่งครัด รวมถึงคุ้มครองบุคคลที่เรียกร้องสิทธิชุมชน ครอบคลุมให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ของประเทศไทยและทั่วโลก"

https://www.amnesty.or.th/files/3715/5547/5332/Image_from_iOS.jpg

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: