เกิดประเด็นข้อถกเถียงกันในโลกออนไลน์ขณะนี้เรื่องความเหมาะสมของแอดมินผู้ให้บริการตามเพจ และแอคเคาน์ที่เป็นทางการ หลังเกิดเหตุการผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @dryices94 ทวีตข้อความในเชิงว่าอยากอาเจียนแต่อยู่บนบีทีเอส แต่ต้องทนไว้อีกสถานีเดียว แล้วแอดมินทวิตเตอร์ของบีทีเอส ทวีตตอบกลับว่า "ตกลงอ้วกไหมจ้ะ...จะอ้วกแท้ๆ ยังหยิบมือถือมาทวิต งือออ...ครั้งหน้า ถ้ารู้สึกไม่สบายสะกิดเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ บีทีเอสมีห้องพยาบาลทุกสถานีครับ"

ภายหลังจากทวีตดังกล่าวแล้วเจ้าของทวิตเตอร์คนเดิมได้ทวีตตอบกลับว่า พอดีว่าตนไม่สบาย แต่ต้องไปทำงาน แค่รู้สึกมึนหัว เพราะคนเยอะเท่านั้น หลังได้นั้นมีการโต้ตอบกันไปมาระหว่างเจ้าของทวิตเตอร์กับแอดมินของบีทีเอสเรื่องห้องพยาบาลที่มีอยู่ทุกสถานีบีทีเอส พร้อมขออภัยที่ตอบทวิตเตอร์ข้อความแบบนั้นไป เพราะมีเจตนาดี ไม่มีเจตนาอื่นใด เนื่องจากถ้าหกล้มไป หรือตกบันไดอาจเกิดอันตรายได้ 

จากทั้งบทสนทนาของทั้งสองเกิดเป็นกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมของแอดมินทวิตเตอร์บีทีเอส ว่า ประโยคที่ใช้เหมือนเป็นการประชดผู้โดยสาร โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "ตกลงอ้วกไหมจ้ะ... จะอ้วกแท้ๆ ยังหยิบมือถือมาทวิต" อีกทั้งยังมีบางคนที่ออกความเห็นว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้แค่ทวีตข้อความลอยๆ เท่านั้น ซึ่งแอดมินเองไม่ควร

แต่อีกฝั่งกลับเข้าข้างแอดมินของทวิตเตอร์บีทีเอสว่า อย่างแรกที่จะไม่ทำถ้ารู้สึกเวียนหัวระหว่างเดินทางคือ การหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น เพราะยิ่งเล่นจะยิ่งปวดหัว 

ส่วน ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ นักวิชาการด้านสื่อ และคณบดีคณะนิเทศศาสตร์การตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้า โพสต์ข้อความและภาพการสนทนาในทวิตเตอร์ดังกล่าวว่า วันนี้มีเคสน่าสนใจ เก็บไว้สอนนักศึกษาได้ เมื่อมีคนทวีตว่าอยู่บนบีทีเอสแล้วอยากอ้วก แอดมินของทวิตเตอร์บีทีเอส แอคทีฟ เลยทำการสื่อสารเชิงรุก ซึ่งพีอาร์เชิงรุกดูดีนะ น่าจะบวก แต่ถ้าใช้คำสื่อสารพลาด จาก "บวก" กลายเป็น "ลบ" ทันที 

ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์ @dryices94 ทวีตข้อความล่าสุดว่า เมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา ทางบีทีเอส ได้โทรศัพท์มาขอโทษกับโพสต์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไร คิดว่าแอดมินคงอยากให้ทวิตเตอร์ดูเป็นกันเอง แต่อาจใช้คำพูดไม่เหมาะสมนิดหน่อยจนออกมาเหมือนประชดประชัน จึงอยากให้ทีมแอดมินมีการปรับปรุงการใช้ภาษาให้ดีกว่านี้