วันที่ 13 ก.ย. ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าว ร.อ..ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะย้ายกลับมาสังกัดพรรค พปชร. ว่า ไม่เกี่ยวกัน พรรคประชารัฐ ก็ต้องดูความเหมาะสม เพื่อพิจารณาผู้จะมาอยู่ในพรรคและผู้สมัครต่างๆ พร้อมมองว่าส.ส.สามารถย้ายพรรคกันได้อยู่แล้ว ซึ่งอาจจะไม่ได้มาอยู่ทั้งพรรคก็ได้ ถือเป็นเรื่องปกติ
ส่วนประเด็นจะยุบพรรคหรือไม่ ตนยังไม่เคยได้ยิน พร้อมถามกลับสื่อว่าไปได้ยินมาจากไหน และมองว่าใครจะไปยุบพรรค ทำพรรคมาขนาดนี้แล้ว ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ก็มีบทบาททางการเมือง
ชัยวุฒิ ระบุอีกว่า พรรคพลังประชารัฐ ก็มีคนเข้ามาร่วมพรรคอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเป็นคนที่อยากทำงานการเมือง อยากเป็น ส.ส.เพื่อช่วยประชาชน ซึ่งเขาก็อยากอยู่พรรคใหญ่ที่มีแรง มีความพร้อมทำงานให้ประชาชนได้ โดยพรรคพลังประชารัฐก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐตอนนี้เนื้อหอมหรือไม่ ชัยวุฒิ ระบุว่า ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็มีคนมาสมัครเรื่อยๆ
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงจะพาคนที่รักกลับบ้านโดยการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ชัยวุฒิ มองว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่คิดว่าคงไม่น่าเกี่ยวกัน การเมืองคือการเลือกคนมาช่วยประชาชน ไม่ได้เลือกมาเพื่อช่วยคนใดคนหนึ่ง ตนฟังแล้วก็ขัดๆความรู้สึกเหมือนกัน
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยจะใช้แนวทางนี้จะทำให้ได้คะแนนเยอะหรือไม่ ชัยวุฒิ ระบุว่า คนที่ชอบก็คงเลือก คนที่ไม่ชอบก็คงไม่เลือกก็เป็นเรื่องปกติ แต่การเมืองควรจะมองเรื่องการทำนโยบายที่ทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่การทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง หรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ส่วนในทางกฎหมายตนไม่ทราบ และยังไม่เห็นรายละเอียดว่าเขาจะทำอย่างไร ซึ่งต้องดูรายละเอียดอีกทีหนึ่ง
ด้าน สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่ม 3 มิตร กล่าวถึงกระแสข่าว ร.อ..ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะย้ายกลับมา พปชร.หรือไม่ ว่า เรื่องนี้ตนก็ทราบเท่าที่สื่อทราบ พร้อมยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ตนจึงยังให้ความเห็นอะไรไม่ได้
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส กลับมาจะทำให้พรรคพลังประชารัฐเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ สมศักดิ์ ระบุว่า ยังไม่ควรตอบอะไรในตอนนี้ ถ้าหากเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงจะทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ให้เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแล้วค่อยมาวิเคราะห์กัน
เมื่อถามย้ำว่า ถ้ากระแส ร.อ.ธรรมนัส กลับพรรคจริงจะกระทบกับกลุ่มสามมิตรหรือไม่ สมศักดิ์ ระบุว่า ตนไม่สามารถตอบแทนผู้อื่นได้ และเรายังไม่ได้คุยอะไรกัน ซึ่งทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้
ส่วนถ้าเป็นเรื่องจริงจะมีผลเปลี่ยนแปลงอะไรในพรรคหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีปัญหากันในพลังประชารัฐ สมศักดิ์ ระบุว่า ตนยังไม่ได้ฟังสมาชิกว่ามีความเห็นอย่างไร ขอเวลานิดนึงเพราะสัปดาห์นี้ ส.ส.จะได้เจอกัน ก็คงมีข้อมูลเพิ่มเติมขึ้น ตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะมีกระแสต้านร.อ.ธรรมนัสเยอะหรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า “วันนี้ยังไม่เห็นมีอะไรพูด แต่วันหน้าไม่ทราบ”
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีการเว้นที่ ส.ส.ไว้ให้จะมีผลต่อการจัดตัวในเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ สมศักดิ์ ระบุว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมายหรือไม่ เพราะไม่แน่ว่าจะเป็นการแปลกหรือไม่ที่การเมืองเว้นที่ไว้ให้ พร้อมยืนยันว่า การขับออกจากพรรคและรับกลับเข้ามาก็ไม่ได้มีข้อห้ามอะไร
ขณะที่ สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงแนวโน้มพรรค ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย กลับมายัง พปชร. ว่า ใครที่จะเข้ามาก็มีระเบียบของพรรคอยู่ ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคก็จะมีการพิจารณา จึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่า ส.ส. เดิม จ.ตาก อยู่ในพรรคพลังประชารัฐ มาก่อนที่จะย้ายพรรค ดังนั้น หาก ส.ส. เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่ดี มีพลัง ในการช่วยเหลือประชาชน หากจะกลับมาก็คงไม่มีปัญหา
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะกลับมาด้วยหรือไม่ สันติ กล่าวว่า ก็อยู่ที่กรรมการบริหารพรรค ไม่ได้รังเกียจ ใครจะมา ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่พรรค อยู่ที่กรรมการบริหารพรรค จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ และคิดว่ายังอีกนาน
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. จะเป็นตัวเชื่อมที่ดีหรือไม่ สันติ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่เกิด แต่เห็นว่า ส.ส. ทุกคนมีเกียรติ ที่ผ่านมาพรรคไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ และส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ไม่เคยพูดคุยกันเลย
พร้อมย้ำว่า ตนเองยังไม่ย้ายพรรค หลังที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และหาก ร.อ.ธรรมนัส เข้ามาในพรรคพลังประชารัฐ ตนเองก็ไม่ย้ายพรรคแน่นอนเช่นกัน