ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท คือรีสอร์ทเพื่อสุขภาพต้นแบบแห่งแรกในเอเชีย ตั้งอยู่ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้นำในการให้บริการและคำแนะนำในการดูแลสุขภาพแก่ผู้รักสุขภาพที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกตลอด 25 ปีที่ผ่านมา จนได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย ทั้งจากความเป็นมืออาชีพ การอัดแน่นไปด้วยทรีตเมนต์และกิจกรรมให้เลือกมากกว่า 200 รายการ มีห้องทรีตเมนต์ทั้งหมด 70 ห้อง และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านและผู้ฝึกสอนมากกว่า 80 ท่าน 

ในการกลับมาให้บริการอีกครั้งในช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ชีวาศรมมาพร้อมกับความพร้อมด้านสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดของผู้เข้าใช้บริการทุกคน โปรแกรมที่พิเศษมากๆ ตอนนี้คือโปรแกรมแบบ 3 วัน 2 คืน ที่จะทำให้คนรักสุขภาพทุกเพศทุกวัย ได้มาฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจที่นี่แบบเต็มๆ และนอกจากแพ็กเกจนี้แล้ว ก็ยังมี แพ็กเกจใหม่ระยะสั้นแบบครึ่งวันและเต็มวันด้วย โดยการมาพักที่ชีวาศรมในครั้งนี้ โจ้มาเข้าโปรแกรมแบบ 3 วัน 2 คืนครับ

ก่อนร่วมกิจกรรมต่างๆ เรามาชมที่พักกันก่อน The Thai Pavilion Suite คือห้องพักขนาดใหญ่ กว้างขวาง และเงียบสงบ เหมาะอย่างยิ่งกับการพักผ่อน ครบครันไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงสุขภัณฑ์แบบอัจฉริยะ

พนักงานเล่าให้โจ้ฟังว่าก่อนเข้าพักจะมีการฆ่าเชื้อด้วยเครื่องผลิตรังสี UV แบบเข้มข้น พร้อมปิดไว้ 24 ช.ม.ก่อนการเข้าพักของแขกในทุกๆ ครั้ง มั่นใจได้เลยกับความสะอาดปลอดภัย ซึ่งความพิเศษที่เป็นไฮไลต์โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของห้องประเภทนี้ ต่างจากห้องพักอื่นๆ คือ ศาลาไทยที่ยื่นออกไปบริเวณทะเลสาบ พร้อมด้วยผนังกระจกแบบ 360 องศาอีกด้วย

• ศาลาไทยของห้องพักขนาดใหญ่แบบ The Thai Pavilion Suite

ถัดจากโซนพาวิเลียนมาก็คือโซนห้องพักและห้องสวีทแบบร่วมสมัย เน้นพื้นที่การใช้สอยที่เหมาะแก่การพักผ่อนพร้อมระเบียงชมวิวทะเลจากห้องพักของเราเอง มีห้องพัก 10 ประเภทได้แก่ ห้องโอเชี่ยนรูม ห้องโอเชี่ยน ดีลักซ์ ห้องโอเชี่ยน ดีลักซ์ พรีเมี่ยม ห้องอัญชัน สวีท ห้องจูนิเปอร์ สวีท ห้องพัทชุลี สวีท ห้องจัสมิน สวีท ห้องชัมพากา สวีท ห้องโกลเด้น โบ สวีท และห้องลีลาวดี สวีท

แต่ละห้องมีความใหญ่โต สวยงาม สะดวกสบาย เหมาะกับการมาพักผ่อน ยิ่งถ้าเป็นการมาอยู่ระยะเวลาหลายวันติดกันยิ่งดี

• ความกว้างขวางโอ่อ่าภายในห้องพักแบบ The Thai Pavilion Suite ตกแต่งด้วยพนังสีขาวตัดกับการตกแต่งด้วยผนังและพื้นไม้ที่ให้ความรู้สึก Classic & Cozy สุดๆ

เมื่อเรามาถึงที่ชีวาศรมแล้ว ขั้นตอนแรกคือการพูดคุยกับ Advisor หรือที่ปรึกษาด้านสุขภาพ โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม.เต็ม สอบถามรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันและพฤติกรรมด้านสุขภาพของเรา ละเอียดดีมากๆเลย และจะจบลงด้วยการจัดตารางกิจกรรมและการทำทรีตเมนต์ต่างๆตลอดเวลา 3 วัน 2 คืนที่ชีวาศรม ซึ่งจริงๆ แล้วถือว่าสั้นมาก เพราะโดยปกติชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาที่นี่มักจะมาอยู่กันเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนเลยก็มี เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้เต็มที่ไปเลย 

โดยโปรแกรมหลักๆ จะมี โปรแกรมสำหรับการดูแลน้ำหนัก (Weight Management) โปรแกรมการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Immune Resilience) และ โปรแกรมการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย (Restart Fitness) สำหรับโจ้ Advisor จัดให้เป็นประเภท Restart Fitness ครับ 

เพราะปกติออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว แต่มักจะมีปัญหาส่วนตัวเลยคือเรื่องของความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และการบาดเจ็บง่ายจากการออกกำลังกาย กิจกรรมและทรีตเมนต์ที่โจ้จะได้ทำก็จะเป็นการออกกำลังกายกับผู้เชี่ยวชาญและการดูแลกล้ามเนื้อแบบเต็มรูปแบบ

• สระว่ายน้ำในร่มของชีวาศรม สถานที่จัดคลาสกิจกรรมในน้ำมากมายที่ผู้มาพักสามารถเข้าร่วมได้

ที่ Health and Wellness Centre ศูนย์รวมการบริการด้านสุขภาพของชีวาศรม มีทรีทเมนต์และกิจกรรมให้เลือกมากกว่า 200 รายการ คลาสแรกนี้โจ้มาฝึกกล้ามเนื้อกับคลาสโยคะที่ดูเหมือนจะง่ายแต่มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนกล้ามเนื้อไม่ยืดหยุ่นแบบเรา แต่ฝึกไปเรื่อยๆ ก็ฟินมากเลยนะครับ สูดอากาศยามบ่าย 1 ชม.เต็มผ่านไปแปปเดียว 

เมื่อร่างกายวอร์มอัพได้ที่แล้ว เราไปต่อกันที่กิจกรรมมันๆ กับเทรนเนอร์ส่วนตัวในคลาสฟิตเนสกันครับ สิ่งที่โจ้ประทับใจอย่างมากกับฟิตเนสของที่นี่คือความเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์เกรดทอปทั้งหมด มากมาย หลากหลาย ครอบคลุม ใครออกกำลังกายอยู่แล้วจะรู้เลยว่านี่คือฟิตเนสที่ครบครันเกินคาดมาก และประทับใจที่สองก็คือเทรนเนอร์ครับ โจ้รักในความมืออาชีพของเทรนเนอร์ที่นี่มาก 1 ชม.เต็มตรงนี้โจ้ได้เทคนิคใหม่ๆ กลับไปเยอะเลย ทั้งๆ ที่เราเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้วยังประทับใจขนาดนี้ สุดยอดมากจริงๆ

• ฟิตเนสที่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์เกรดสูงมากมาย เหมาะกับการออกกำลังกายทั้งแบบแมชชีนและฟังก์ชันนัลโดยมีเทรนเนอร์ส่วนตัวคอยให้คำปรึกษา

อีกหนึ่งความน่าสนใจของกิจกรรมที่ชีวาศรมก็คือ NEURAC มาจากคำ ว่า NEURomuscular ACtivation เป็นชื่อเรียกวิธีออกกำลังกายเพื่อการบำบัดรักษา หรือ Therapeutic Exercise รูปแบบหน่ึงซ่ึงถูกคิดค้นและพัฒนาโดยอดีตนักกีฬายิมนาสติก และนักกายภาพบำบัดจากนอร์เวย์ตั้งแต่ปี 1991 โดยมีจุดประสงคเ์พื่อฟ้ืนฟูแก้ไขรูปแบบการทำงานและการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ผิดปกติผ่านการกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเน้ือให้ทำงานอย่างจำาเพาะเจาะจงและถูกหลักชีวกลศาสตร์ซึ่งจะนำไปสู่การบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ในที่สุด

จริงๆ กิจกรรมกลางแจ้งที่ชีวาศรม นอกจากคายัคแล้วก็ยังมี Paddle Board ด้วยนะครับ เราสามารถแจ้งพนักงานเพื่อจองเวลาเล่นได้เลย โจ้ว่าช่วงเช้าๆประมาณ 7 โมงกำลังดี อากาศสบายๆ แดดไม่ร้อนไป ถ้าใครยังพายไม่เป็นสามารถจองครูผู้สอนได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องไปคนเดียวครับ หลังจากพายเรือเสร็จ ไหนๆ ตัวก็เปียกแล้ว โจ้เลือกมาออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำต่อเลยที่สระว่ายน้ำกลางแจ้งของชีวิศรม

ก่อนลงสระผู้ใช้บริการทุกคนต้องอาบน้ำให้สะอาดก่อน ส่วนในสระก็มีการแบ่งเลนไว้อย่างชัดเจน สะดวก และปลอดภัยมากๆ และนอกจากสระว่ายน้ำขนากดกลางแจ้งแล้วก็ยังมีสระในร่ม สำหรักการทำกิจกรรมออกกำลังกายในน้ำเป็นคลาสอีกด้วยครับ

• ผ่อนคลายกล้ามเนื้อตามแบบฉบับของชีวาศรม มีให้เลือกหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบและความเหมาะสมของร่ายกาย ถ้ามาหลายวันควรลองให้ครบทุกแบบเลยครับ

โซนสปาของชีวาศรมจะประกอบไปด้วยห้องสปาและห้องทำทรีตเมนต์มากมาย โซนหลักคือพื้นที่ส่วนที่เรียกว่า Water Therapy หรือการบำบัดด้วยน้ำ แค่ฟังชื่อก็รู้สึกรีแลกซ์แล้วใช่ไหมครับ เช่นเดียวกับทุกพื้นที่ในรีสอร์ท ชีวาศรมบอกโจ้ว่ามั่นใจในเรื่องความสะอาดได้เลยเพราะก่อนที่เราจะใช้งานทุกอย่างถูกทำความสะอาดฆ่าเชื้อมาหมดแล้ว ตั้งแต่ตู้ล็อกเกอร์ ไปจนถึงบริเวณห้องอาบน้ำ ส่วนห้องสตีม ห้องซาวน่า และบริเวณอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางห้องก็สามารถใช้ได้ครั้งละ 1 คนเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยครับ

แช่น้ำอุ่นๆนวดกล้ามเนื้อกันเสร็จแล้ว โจ้มีนัดทำทรีตเมนต์พิเศษ นั่นก็คือ การนวดสมุนไพรไทย หรือ Thai Herbal Massage 110 นาที เป็นการนวดแผนไทยบวกกับลูกประคบสมุนไพรที่กลิ่นสมุนไพรหอมมาก ความร้อนจากลูกประคบก็ช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดีมากๆครับ ซึ่งนอกจาก Thai Herbal Massage แล้ว โจ้ก็ยังมีโอกาสได้ลองนวดกล้ามเนื้อแบบ Deep Tissue และเข้าคลาสยืดกล้ามเนื้อ Super Stretching ที่ฟินแบบบรรยายไม่ถูกเลยจริงๆ รู้สึกว่าได้ยืดกล้ามเนื้อมากที่สุดเท่าที่เคยทำมาในชีวิต

• ทุกเมนูอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ชีวาศรม นอกจากจะคัดสรรมาเป็นอย่างดีจากวัตถุดิบคุณภาพสูง ยังมีรสชาติที่ถูกปากแถมอร่อยมากๆด้วย

สิ่งหนึ่งที่โจ้ประทับใจมากนอกจากอาหารเพื่อสุขภาพที่ทั้งอร่อยและมีคุณภาพ ก็คือเรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยในการรับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารแบบอลาคาร์ต หรือแบบไลน์บุฟเฟต์ ชีวาศรมปรับรูปแบบทุกการเสิร์ฟอาหารให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ New Normal ด้วยวิธีการลดการสัมผัสอุปกรณ์ทุกอย่าง เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าทุกพื้นที่นั้นปลอดภัยจริงๆ

การมาเข้าคอร์ส 3 วัน 2 คืนที่ชีวาศรม นอกจากจะทำให้โจ้ได้เข้าร่วมกิจกรรมการออกกำลังกายและฟื้นฟูมากมาย มันยังทำให้เราได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองจริงๆ ท่ามกลางบรรยากาศของสายลม แสงแดด ความงามและความสงบของชายหาดหัวหิน นี่คือช่วงเวลาที่ดีมาก แถมยังได้มีโอกาสลดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ด้วย ถ้ามีโอกาสจะต้องกลับมาที่นี่อีกแน่นอนครับ