17 มิ.ย. เจ้าหน้าที่จากหน่วยความมั่นคงฮ่องกงถึง 500 คนบุกสำนักของ แอปเปิล เดลี (Apple Daily) สื่อแท็บลอยด์ท้องถิ่น พร้อมจับกุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองบรรณาธิการรวม 5 คน ทั้งยังสั่งอายัดทรัยพ์สิน โดยหนึ่งในนั้นรวมถึง ไรอัน ลอว์ หัวหน้ากองบรรณาธิการด้วย
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเผยว่าทั้ง 5 คน ถูกจับกุมฐานสมคบคิดกับต่างชาติและเครือข่ายต่างชาติที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ ขณะที่แหล่งข่าวเผยกับเอเอฟพีว่า ทั้ง 5 คนที่ถูกจับเป็นผู้บริหารของเน็กซ์ ดิจิทัล บริษัทแม่ของแอปเปิล เดลี ซึ่งมี 'จิมมี ไล' เจ้าพ่อวงการสื่อของฮ่องกงผู้เป็นเจ้าของ และเป็นหนามทิ่มแทงฝ่ายรัฐบาลปักกิ่งมานาน จากการให้การสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยในฮ่องกง และวิพากษ์วิจารณ์คณะรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่อง
ตำรวจฮ่องกงยังเผยว่าได้ทำการอายัดทรัยพ์สินมูลค่าของสำนักงานรวมมูลค่า 18 ล้านเหรียญฮ่องกง (ราว 72 ล้านบาท) ภายใต้บริษัท 3 แห่งคือ แอปเปิลเดลี ลิมิเต็ด แอปเปิลเดลี ปรินติ้ง ลิมิเต็ด และแอปเปิลเดลี อินเทลเลค ลิมิเต็ด ที่ทางแอปเปิลเดลีเป็นเจ้าของ โดยอาศัยอำนาจภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นคำสั่งอายัดครั้งแรกที่ใช้โดยตรงกับสื่อสารมวลชนเป็นแห่งแรก
ในระหว่างการบุกตรวจค้นจับกุม ทางสื่อได้มีการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กของเพจตัวเอง โดยตอนหนึ่งผู้สื่อข่าวของแอปเปิล เดลี ระบุว่า "พวกเขา (ตำรวจ) มาถึงตอน 07.00น. อาคารของเราถูกยึด ... ตอนนี้เราเห็นพวกเขากำลังย้ายกล้องวัสดุเอกสารต่างๆขึ้นรถตำรวจ ตำรวจไม่ให้เราใช้เครื่องไม้เครื่องมือของเรา แต่เราสามารถสามารถไลฟ์ถ่ายทอดสอดและเว็บไซต์ของเราจะคอยอัพเดทสถานการณ์เป็นระยะๆ"
หน่วยงานฮ่องกงได้อาศัยกฎหมายความความมั่นคงฉบับใหม่ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้ากวาดล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างแพร่หลายมากขึ้นทั้งยังเพิ่มอำนาจในการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ กฎหมายดังกล่าวระบุโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต และถือเป็นคดีความมั่นคงที่ส่วนใหญน้อยที่จะได้รับการประกันตัว ส่วน จิมมี ไล เจ้าพ่อสื่อผู้เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ดังกล่าววัย 73 ปี ก่อนหน้านี้เขาถูกตั้งข้อหาสมคบคิด หลังเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนบุกจู่โจมตรวจค้นห้องข่าวในเดือนสิงหาคมปีก่อน
ปัจจุบันเขาอยู่ระหว่างชดใช้โทษจำคุกในหลายคดี จากการที่เข้าร่วมการประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตยเมื่อ 2 ปีก่อน จนถึงตอนนี้มีนักเคลื่อนไหวฝ่ายประชาธิปไตยมากกว่า 100 รายที่ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายดังกล่าว ขณะที่คนอื่นๆพากันหลบหนีออกไปต่างแดน
ที่มา: Reuters