ไม่พบผลการค้นหา
เปิดบทลงโทษ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จงใจปกปิดข้อมูลหรือแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หลังมีการเปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงปาร์ตี้วันเกิด 'ดีเจมะตูม' พบระบุบางช่วงเวลา 'ผู้ป่วยไม่ให้ข้อมูล'

จากกรณี เตชินท์ พลอยเพชร หรือ ดีเจมะตูม ติดเชื้อโควิด-19 ภายหลังจัดปาร์ตี้วันเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจากงานเลี้ยงดังกล่าวแล้ว 24 ราย

ขณะที่ล่าสุด กรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งได้สอบสวนโรคแล้วเสร็จเพิ่มอีก 15 รายด้วยกัน โดยมีผู้ป่วยรายที่ 647 อาชีพ "นักร้อง นักแสดง" รายที่ 658 อาชีพ 'เจ้าหน้าที่รัฐ' มีความเชื่อมโยงกับปาร์ตี้วันเกิดของดีเจมะตูม ซึ่งในไทม์ไลน์ของผู้ป่วยทั้ง 2 ราย นั้นพบว่ามีบางช่วงที่ไม่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่


142678155_3194096627356603_3761153205867227012_o.jpg


Dtbezn3nNUxytg04acwvnGqEOFXFjWhrSruYAgPLLxVVnA.jpg

หากย้อนดูข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 17) ที่ประกาศเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ที่ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีการระบุไว้ว่า 

ผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนดซึ่งออกตามาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ย่อมเป็นความผิดซึ่งอาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน การฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ด้วย

T_0001-3.jpg



'อนุทิน' ชี้ปกปิดไทม์ไลน์ผิดกฎหมาย

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ 'โหนกระแส' โดยช่วงหนึ่งได้ตอบคำถาม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรรายการ ว่าหากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ ถือว่ามีความผิดหรือไม่นั้น อนุทิน กล่าวว่า ถ้าปกปิดแล้วพิสูจน์ได้ว่าให้การเท็จอาจจะไม่ได้โดนผิดกฎหมายควบคุมโควิด-19 แต่จะผิดเรื่องให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน

สำหรับกรณีผู้ป่วยรายที่ 658 อาชีพเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งไม่ให้ข้อมูลบางช่วงนั้น เมื่อทราบว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว ต้องมาอยู่ที่โรงพยาบาล และสอบสวนโรค หากไม่บอกไทม์ไลน์ว่าไปไหนมาบ้าง ถือว่าไม่ให้ความร่วมมือ ต้องดำเนินคดี

ขณะที่พิธีกรรายการระบุว่า ผู้ป่วยดังกล่าวเป็นตำรวจด้วย อนุทิน กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องบอกไปทางผู้บังคับบัญชาว่าให้กวดขันดูแล คนๆนี้คงอาศัยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ พยายามไม่ให้ความร่วมมือ คิดว่าตัวเองใหญ่โต แต่ไม่มีทางใหญ่กว่าหมอ ยังไงก็ต้องบอก เรื่องนี้ไม่ต้องถึงขั้นใช้กฎหมายโรคติดต่อ แค่ให้การเท็จกับเจ้าพนักงานก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว

พิธีกรรายการ สอบถามถึงกรณีผู้ป่วยรายที่ 647 ที่ไม่ให้ข้อมูลบางช่วงเวลาเช่นกัน อนุทิน กล่าวว่า ถ้าไม่บอกก็ผิดกฎหมาย เขามีความจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลไทม์ไลน์ว่าไปไหนมาบ้าง ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ไปงานเดียวกันไม่ใช่หรือ และช่วงเวลาที่ไม่บอกข้อมูลก็เท่ากันแสดงว่าต้องไปทำอะไรที่ไม่อยากจะบอก ต้องไปสืบสวนมาให้ได้ ดูแล้วก็คงจะเตี๊ยมกัน



เตือนหากยังปกปิดจะเข้าแจ้งความดำเนินคดี

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า Update ข้อมูลจากสำนักอนามัย กทม. : เคสปกปิดข้อมูล ขณะนี้ทีมสอบสวนโรคของ กทม.กำลังสอบสวนโรคเพิ่มเติม หากได้ข้อมูลจะ update timeline ทันที แต่หากยังปกปิดข้อมูล เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคจะแจ้งความกับทางตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผบ.ตร.ขู่เชือดตำรวจติดโควิดปกปิดไทม์ไลน์

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการปฏิบัติ หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วพยายามปกปิดข้อมูล ว่า เรื่องนี้มีการกวดขันผู้บังคับบัญชาชั้นต้นเป็นคนตรวจสอบและรายงานขึ้นมา ถ้าไปทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบหรือคำสั่งผู้บังคับบัญชาหรือแนวนโยบายของรัฐ จะมีมาตรฐานการพิจารณาเรื่องความผิดอยู่แล้ว เป็นผู้ที่ปฏิบัติตัวเคร่งครัดตามมารยาทแบบแผนอันดีงามหรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นรายๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน  

ส่วนบุคคลที่มีชื่อเสียงปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ ตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีบทลงโทษดำเนินคดีได้หรือไม่นั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขั้นตอนการสอบสวนโรคไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา การเปิดเผยข้อมูลมันก็จำกัดด้วยข้อกฎหมาย เป็นเรื่องข้อมูลของผู้ป่วย เพราะฉะนั้น การเปิดเผยที่ออกมาสู่สาธารณะเขาจะเปิดเผยเฉพาะที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นคนดำเนินการเปิดเผยข้อมูล บางครั้งอาจให้ข้อมูลหมดก็ได้ แต่เจ้าหน้าที่เห็นว่าสมควรเปิดเผยแค่นี้ก็เปิดเผยแค่นี้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :