ไม่พบผลการค้นหา
ศาลแขวงพัทยา สั่งปรับ จ่านิว-พร้อมพวก 4,000 บาท ข้อหาขัดพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ กรณีจัดชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง เมื่อปี 2561

จากกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดย จ่านิว -สิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ วันเฉลิม กุนเสน ได้จัดชุมชุมปลุกพลังคนอยากเลือกตั้งครั้งที่ 2 ทีจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2561 เพื่อเรียกร้องให้มีการจัดเลือกตั้ง และหยุดการสืบทอดอำนาจคสช. 

ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลแขวงพัทยานัดฟังคำพิพากษาคดีคนอยากเลือกตั้ง 12 คน ชุมนุมที่ริมหาดพัทยาตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช ในข้อหาร่วมกันจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้ง ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ

คดีนี้ นับเป็นการต่อสู้เรื่องการบังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ในเรื่องนิยามและหน้าที่ของผู้ประสงค์จัดการชุมนุม ซึ่งตามมาตรา 10 ระบุให้ผู้ประสงค์จัดการชุมนุมมีหน้าที่ต้องแจ้งการชุมนุม แต่คดีนี้กลับมีการตั้งข้อหาต่อผู้ร่วมชุมนุมในฐานะผู้ประสงค์จัดการชุมนุมด้วย รวมถึงปัญหาความไม่สะดวกในทางปฏิบัติ ที่ทำให้ผู้ประสงค์จัดการชุมนุมไม่สามารถแจ้งการชุมนุมได้ตามกฎหมาย

วันนี้ ศาลแขวงพัทยาพิพากษาว่า ตาม​ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 10 เอาผิดเฉพาะ​ผู้ประสงค์​จัดการ​ชุมนุม​หรือแกนนำเท่านั้น​ คดีจึงมีประเด็นต้องพิเคราะห์ว่าใครบ้างที่เป็นแกนนำในการชุมนุม พิเคราะห์​พฤติการณ์​แล้วเห็นว่า​ สิรวิชญ์​ เสรีธิวัฒน์ หรือ ‘จ่านิว’, วันเฉลิม​ กุนเสน, และศศวัชร์ คมนียวนิชที่เดินทางมาด้วยกัน ช่วยกันลากเครื่อง​ขยาย​เสียงมีพฤติกรรม​สนับสนุนร่วมกันจัดการชุมนุม ส่วนจำเลยอื่นแม้จะร่วมชูป้ายหรือถ่ายภาพก็ยังไม่ถือว่าเป็นแกนนำผู้จัดการชุมนุม

ส่วนประเด็นว่าจำเลยมีเจตนาไม่แจ้งการชุมนุมหรือไม่ สิรวิชญ์อ้างว่าได้แจ้งการชุมนุมทางโทรศัพท์​ต่อ​ ผกก.สภ.เมืองพัทยา​ แล้ว​ ศาลเห็นว่ากฎหมายได้ระบุ​วิธีแจ้งการชุมนุมไว้ โดยต้องแจ้งรายละเอียดการชุมนุมเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ สามารถสั่งแก้ไขได้ นอกจากนี้ จำเลยควรเดินทางแจ้งการชุมนุมด้วยตนเองที่​ สภ.เมืองพัทยา​ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำหรืออำนวยความสะดวกในการชุมนุม การที่จำเลยไม่แจ้งการชุมนุมหลังโทรศัพท์​ติดต่อกับ​ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ​ถือว่ามีเจตนา​ฝ่าฝืนไม่แจ้งการชุมนุม

ศาลลงโทษปรับสิรวิชญ์​, วันเฉลิม​, และศศวัชร์คนละ​ 4,000​ บาท​ แต่คำให้การและทางนำสืบเป็นประโยชน์​ต่อการพิจารณา​ ลดโทษปรับเหลือคนละ​ 3,000​ บาท​ จำเลยอื่นยกฟ้อง