ไม่พบผลการค้นหา
องค์การสหประชาชาติประกาศแผนงานระดับโลกด้านมนุษยธรรมให้ความช่วยเหลือประชาชนใน 51 ประเทศทั่วโลกที่มีความเปราะบาง รับมือและยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติได้ประกาศแผนงานระดับโลกด้านมนุษยธรรมเพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 ในประเทศเปราะบาง 51 ประเทศทั่วโลก ทั้งในทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลางและเอเชีย ซึ่งแผนงานนี้จะใช้เงินทุนราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 65,000 ล้านบาท เป็นการดำเนินงานโดยหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ และมีองค์กรพัฒนาเอกชนในระดับนานาชาติรวมถึงกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนเป็นผู้ปฏิบัติงานหลัก โดยจะจัดส่งเครื่องมือและอุปกรณ์จําเป็นสําหรับห้องแล็บในการตรวจหาเชื้อไวรัสตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย ติดตั้งที่ล้างมือในค่ายผู้ลี้ภัยและศูนย์พักพิงชั่วคราว รวมถึงจัดตั้งศูนย์และเส้นทางส่งความช่วยเหลือทางอากาศทั่วทวีปแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้ เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่และสิ่งของจำเป็นไปยังพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด 

เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า โควิด-19 กำลังเป็นภัยคุกคามมวลมนุษยชาติ เราทุกคนต้องร่วมกันต่อสู้กับภัยครั้งนี้ การรับมือของประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงลำพังนั้นไม่เพียงพอ เราต้องให้ความช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอและเปราะบางที่สุดซึ่งมีมากมายหลายล้านคนที่ไม่อาจปกป้องตนเองได้ นี่เป็นเรื่องมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน เป็นสิ่งจำเป็นในการรับมือกับไวรัส และนี่คือเวลาที่เราต้องยื่นมือไปช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในภาวะเปราะบาง

ขณะที่นายมาร์ค โลคอค รองเลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่มาสู่พื้นที่ที่ประชาชนอาศัยอยู่ในเขตสู้รบซึ่งผู้คนยากจะเข้าถึงน้ำสะอาด สบู่ล้างมือ หรือบริการทางการแพทย์ พร้อมเตือนว่าการทิ้งให้ประชาชนในพื้นที่ยากจนและเปราะบางที่สุดเผชิญชะตากรรมนี้เป็นสิ่งที่โหดร้ายและไม่ใช่วิธีที่ฉลาด เพราะการปล่อยให้ไวรัสแพร่ระบาดในพื้นที่เหล่านี้โดยไม่มีการควบคุมจะะทำให้ประชาชนหลายล้านคนอยู่ในความเสี่ยง ทั่วภูมิภาคจะเกิดความวุ่นวายและทำให้ไวรัสกลับมาแพร่ระบาดได้อีกทั่วโลก ประเทศต่างๆ จะไม่สามารถปกป้องประชากรของตนเองได้เลย หากไม่ช่วยเหลือประเทศที่ยากจนที่สุดให้สามารถปกป้องประชากรของพวกเขาอย่างเร่งด่วนในตอนนี้ 

ทั้งนี้ นายกูเตอร์เรสได้แถลงแผนงานด้านมนุษยธรรมนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ร่วมกับรองเลขาธิการสหประชาชาติ เลขาธิการใหญ่องค์การอนามัยโลก และผู้อํานวยการบริหารองค์การยูนิเซฟ โดยทุกคนเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกร่วมมือกันลดผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศที่เปราะบาง และยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสทั่วโลก ซึ่งทำได้โดยสนับสนุนแผนงานของสหประชาชาติครั้งนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงให้การสนับสนุนภารกิจด้านมนุษยธรรมด้านอื่นๆ ของสหประชาชาติที่ดำเนินอยู่ต่อไป


อ้างอิง UN News/reliefweb