ไม่พบผลการค้นหา
'จตุพร' คาดสถานการณ์การเมืองไทยกับโควิด-19 ส่งผลกระทบพร้อมกัน ย้ำไม่มีเจตนายุบเสื้อแดง แต่ส่งมอบมรดกการต่อสู้ของคนเสื้อแดงให้คนรุ่นใหม่

จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์ (เมื่อวันที่ 3 ม.ค.) ว่า ขบวนการ นปช.มีนโยบายหลักที่ขีดเส้นใต้ว่าโค่นอำมาตย์


โควิด-19 ปลุกความจนล้มรัฐบาล

ประธาน นปช. กล่าวว่า ปีใหม่ปีนี้เป็นปีที่ตรงกับช่วงมหกรรมโควิด-19 ซึ่งจริงๆ แล้วการรับมือหรือการสร้างข้อห้ามมากมายของรัฐบาลและเกินความจําเป็นและจะสร้างความเสียหายค่อนข้างมาก หากย้อนดูโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงปีนี้ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 64 ราย แต่ 7 วันอันตรายนับตัวเลขถึงเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 260 ราย มากกว่าโควิด-19 ทั้งระลอกที่ 1 และระลอกที่ 2 แต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจนั้นมากกว่าทุกกรณีที่เกิดขึ้น  

ดังนั้น ตนเชื่อว่า ข้อห้ามต่างๆ เป็นเหมือนกับงูรัด และสุดท้ายแล้วจะวิวัฒนาการไปสู่คำว่าล็อกดาวน์กันอีกครั้ง ซึ่งจะเจ๊งกันแบบถ้วนหน้า แต่หากรัฐประคับประคองความรู้สึกทำความเข้าใจให้อยู่กับเชื้อโควิด-19 เหมือนสมัยโรคซาร์ส หรือแม้กระทั่งโรคเอดส์ที่ช่วงเเรกก็เกิดความวิตก แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะคนก็อยู่กับโรคเหล่านี้ได้ 

ครั้งนี้ก็เช่นกัน หากรัฐประคับประคองความรู้สึกนั้น ตนเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่รู้จักการป้องกันตัวเอง แต่หากรัฐไปใช้มาตรการเหมือนในครั้งแรก เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจจะพังทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวรัฐบาลเอง หลายคนคิดว่ามาตรการต่างๆ ทั้งการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ. โรคติดต่อฯ หรือแม้กระทั่งคำสั่งอื่นใดก็ตาม แต่ความเป็นจริงนั้น ประชาชนเดือดร้อนทางเศรษฐกิจจำนวนมาก  

"สิ่งที่รัฐบาลควรจะไปจัดการมากที่สุดคือ ไปดำเนินการกับคนที่ปล่อยปละละเลย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง แม้จะมีวัคซีนที่ใกล้จะมาในเดือนกุมภาพันธ์ แต่สถานการณ์ก็จะเลยไป เหมือนตัวอย่างไข้หวัด 2009 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่าโควิด-19 เมื่อวัคซีนมาถึงคนก็เริ่มหายป่วยกันแล้ว" 

ประธาน นปช. กล่าวว่า หากมาตรการของ ศบค.และรัฐบาลไม่ทำอะไรที่เกินเลย เชื่อว่าคนไทยมีความรับผิดชอบ แต่ถ้าประชาชนทนไม่ได้ จากความยากจนทั้งปวงก็จะมีการลุกขึ้นมาล้มรัฐบาล

“ความมักง่ายของกลไกรัฐได้ปล่อยปละละเลยทั้งเรื่องบ่อนการพนันที่จังหวัดระยองและแรงงานข้ามชาติที่สมุทรสาคร ดังนั้น สถานการณ์โควิด-19 จะไปพร้อมกับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย” ประธาน นปช. กล่าว


ส่งมอบมรดกการต่อสู้

ขณะเดียวกัน จตุพร กล่าวถึงข้อต่อสู้ข้อเรียกร้องของกลุ่มราษฎรว่า หากเปรียบเสมือนการวิ่งก็วิ่งไปได้ 300 เมตร ส่งไม้กันตามลำดับ ตามกระบวนการที่ต่อสู้กันมา ซึ่งตนได้สอบถามทั้งในซีกฝั่งของนางธิดา ถาวรเศรษฐ หรือแกนนำคนอื่นๆ จะโดยทางตรงหรือพฤติกรรม ไม่มีใครเลยธงของ นปช.แม้เพียงแต่คนเดียว 

เมื่อคนหนุ่มสาวไปไกลกว่า 300 เมตร ดังนั้น เมื่อเราวิ่งมาถึง 300 เมตร ก็ควรส่งไม้ต่อให้กับคนรุ่นใหม่ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะบอกให้เลิกคนเสื้อแดง กระบวนการของคนเสื้อแดงจะส่งมอบมรดกการต่อสู้ให้คนหนุ่มสาวได้เดินต่อไป เพราะจะมีพลัง 

“เมื่อเขาเดินได้ไกลกว่าเรา ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ดังนั้น กำลังที่เรามีก็มอบให้กับเขา ผมอยากถามว่าเป็นการทรยศคนเสื้อแดงตรงไหน นี่เป็นการซื่อสัตย์ต่อคนเสื้อแดงที่ต้องการให้ผลพวงการต่อสู้ประสบผลสำเร็จ”