ไม่พบผลการค้นหา
‘ยุทธพงศ์’ กระทู้สดบี้ถาม ‘ประยุทธ์’ ปล่อยกลุ่มจีนเทาระบาดใจกลางเมือง ทวงคืบหน้าสอบบริจาคเงินพรรคการเมือง-ถือสัญชาติไทยง่าย ด้าน ‘ชัยชาญ’ ย้ำนายกฯ เร่งดำเนินการกวาดล้างธุรกิจคนจีนสีเทา จับกุมหัวหน้ากลุ่มได้ 2 คน อีก 3 หนีออกนอกประเทศ

วันที่ 10 พ.ย. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามต่อนายกรัฐมนตรีในหัวข้อ ‘ผับลับชาวจีน ธุรกิจสีเทากลางเมืองหลวง’ สืบเนื่องจากคืนวันที่ 26 ต.ค. 2565 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บ.ชน.) ได้เข้าจับกุมผับลับของกลุ่มชาวจีน ในเขตยานนาวาเปิดให้นักท่องเที่ยวสัญชาติจีนเข้ามามั่วสุมเสพยา ทั้งยังมีการดำเนินธุรกิจเช่นนี้ในอีกหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ โดยเปิดรับเฉพาะชาวจีนเท่านั้น

ยุทธพงศ์ ตั้งคำถามไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นใจกลางกรุงเทพฯ ได้อย่างไร และกรณีที่ผับยานนาวาได้ขยายผลไปถึงไหนแล้ว และดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง เช่นเดียวกับบ่อนการพนันที่อยู่ในผับนี้เช่นกัน มีแผนจะจัดการอย่างไร พร้อมเผยว่าตนมีข้อมูลของนักการเมืองในพื้นที่ภาคกลางที่เป็นเจ้าของผับอยู่ด้วย

ทั้งนี้ ยุทธพงศ์ ยังถามถึงกรณี ห่าว เจ๋อตู้ หรือชื่อไทย ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2564 ได้บริจาคเงินให้พรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง จำนวน 3 ล้านบาท จึงขอสอบถามว่าได้ดำเนินการตรวจสอบว่าเงินดังกล่าวมาจากไหน และได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ ยังปรากฏหนังสือสำคัญการเปลี่ยนสัญชาติมาเป็นไทย เหตุใดชาวจีนจึงได้ถือสัญชาติไทยได้โดยง่าย

“การปล่อยให้คนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจสีเทาในกรุงเทพฯ กระทบต่ออธิปไตยของประเทศไทย และมีข่าวว่ามีอิทธิพลของนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศคอยช่วยเหลือให้นักธุรกิจจีนสีเทา รวมถึงอดีตนายตำรวจใหญ่ด้วย จึงอยากสอบถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และนายกฯ จะให้ความมั่นใจแก่สังคมไทยอย่างไร”

ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีตอบกระทู้สด โดยระบุว่า กรณีการกวาดล้างกลุ่มธุรกิจสีเทาชาวจีนที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยนั้น นายกฯ ได้สั่งกำชับไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำให้ใช้มาตรการและกฎหมายทั้งหมดเข้าปราบปราม หากมีหลักฐานจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด รัฐบาลไม่ยอมให้ใครใช้ประเทศไทยมาเป็นพื้นที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย 

สำหรับความคืบหน้าของการจับกุมนั้น ตร. ได้มีการขยายผลจับกุมตามลำดับ จับกุมระดับกลุ่มหัวหน้าไปแล้ว 2 คน อีก 3 คนหนีออกนอกประเทศ โดย ตร. ได้ขึ้นบัญชีดำ เพิกถอนวีซ่า และประสานกับอินเตอร์โพลออกหมายแดงเพื่อประกาศจับในทั่วโลกต่อไป 

ส่วนกรณีของการที่ ห่าว เจ๋อตู้ ได้ถือสัญชาติไทย กำลังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้เนื่องจากเป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า ส่วนเรื่องเงินบริจาค มองว่าควรเป็นการตรวจสอบโดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถ้าสมาชิกฯ หรือประชาชน มีข้อมูลส่วนใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน สามารถติดต่อเพื่อส่งข้อมูลมาทางสายด่วน 1599 ได้ตลอดเวลา