ที่บก.ปอท. นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะรองผอ.ศปอส.ตร. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในฐานความผิดตามมาตรา 14 (2) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังทางเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
เมื่อนายฤภพ มาถึงตำรวจได้เชิญตัวเข้าห้องประชุมเพื่อสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายเรียก เมื่อเสร็จสิ้นได้ปล่อยตัวไปชั่วคราวโดยไม่ได้ควบคุมตัวไว้แต่อย่างใด ซึ่งเจ้าตัวได้ยื่นขอให้มีการเพิ่มพยานในสำนวน โดยให้การปฎิเสธตามข้อกล่าวหา
การกระทำดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจของ "พรรคไทยรักษาชาติ" ได้แพร่ภาพคลิปใช้หัวข้อว่า "ถ่ายทอดสด ทษช. แถลงข่าวปัญหาฝุ่นละออง ภัยเงียบที่ทำร้ายคนกรุงเทพมหานคร" โดยมี นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ เป็นผู้แถลงและอธิบายการใช้แอปพลิเคชันไลน์ตรวจค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์
โดยให้ ไลน์แอด @TSNREPORT เมื่อแอดไลน์ดังกล่าวได้ลิงค์ไปยังเว็บไซต์ https://tsntalk.com/pm25 ซึ่งแจ้งว่าสามารถตรวจสอบข้อมูลค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 ในเขต กทม.ได้
พร้อมกับระบุว่าระบบจะขอพิกัดจีพีเอสของเครื่องที่ใช้งาน และจะแสดงข้อมูลค่าฝุ่น ณ จุดนั้นให้ทราบ ทำให้มีผู้ให้ความสนใจเข้าติดตามจำนวนมาก
ต่อมาตำรวจ ศปอส.ตร.และบก.ปอท.ได้ตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีการรายงานค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 ในสถานที่ต่างๆ ตามโลเคชั่น แบบเป็นเท็จ เนื่องจากตำแหน่งที่มีการรายงานค่าฝุ่นไม่มีการวัดค่าตำแหน่งนั้นจริงๆ แต่นำค่าฝุ่นจากตำแหน่งอื่นที่เป็นพื้นที่ใกล้เคียงมาอ้างอิงว่าเป็นค่าฝุ่นในตำแหน่งนั้นแทน เข้าข่ายทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและเกิดความตื่นตระหนก เป็นความผิดฐาน "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน"
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ออกหมายเรียกนายฤภพในฐานะเป็นผู้ต้องหาในความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ตามมาตรา14(2) จากกรณีเรื่องค่าฝุ่นมลพิษที่ไม่เป็นจริงตามที่ได้ระบุไว้ ตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีนายฤภพเป็นผู้ดำเนินการ จึงมอบหมายให้ออกหมายเรียก
ผบช.สตม. ในฐานะรองผอ.ศปอส.ตร. กล่าวยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ใครก็ตามที่ทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีทุกราย ทั้งนี้การนำสื่อออนไลน์ไปใช้ในการเลือกตั้งสามารถทำได้แต่ต้องใช้ในทางที่ถูกกฎหมาย ไม่ทำให้คนเกิดความสับสนหรือตื่นตระหนก คดีนี้มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี
(ฤภพ ชินวัตร )