นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อยู่ระหว่างหารือถึงแนวทางการออกมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวร่วมกัน หลังจากที่การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเบื้องต้นจะมีการออกมาตรการที่เป็นแพคเกจร่วมกัน ซึ่งในสัปดาห์นี้จะมีการหารือเพื่อสรุปมาตรการทั้งหมด

โดยมาตรการที่จะออกมาจะต้องมาทันในช่วงวันหยุดชดเชยช่วงสงกรานต์ ที่คาดว่ารัฐบาลจะประกาศหยุดให้ยาวต่อเนื่องในเดือน ก.ค.นี้ เนื่องจากคาดว่าจะมีการยกเลิกการใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) หากไม่มีการระบาดรอบ 2 และให้มีการเดินทางข้ามจังหวัดได้ตามปกติ โดยกระทรวงการคลังเห็นว่าภาคการท่องเที่ยวต้องได้รับการดูแลก่อน เพราะเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19มากที่สุด ไม่มีรายได้เข้ามาในช่วงหลายเดือน นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาไม่ได้ ในประเทศก็ยกเลิกวันหยุดยาวทั้งหมด ซึ่งการช่วยการท่องเที่ยว จะเป็นการช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย การบริโภคภาคเอกชน

ทั้งนี้ นายลวรณ ระบุว่า มาตรการท่องเที่ยวอาจจะเป็นมาตรการภาษี เช่น การนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ส่วนข้อเสนอให้สามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 50,000 บาท จากเดิมที่เคยให้สิทธิลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาท จะนำไปพิจารณาร่วมด้วย ส่วนจะแจกเงินเที่ยวเลยหรือไม่นั้น ก็เป็นอีกแนวทางที่จะต้องพิจารณาร่วมด้วยเช่นกัน โดยมาตรการที่จะต้องใช้งบประมาณ เบื้องต้นสามารถใช้เงินจากพระราชกำหนดกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของเงินก้อน 4 แสนล้านบาทที่จะใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ได้ แต่ทั้งหมดจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ในส่วนของมาตรการภาษีไม่ต้องใช้เงินงบประมาณ