ทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยาการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณเที่ยวบิน โดยในช่วงครึ่งแรกของเดือน เม.ย. 2564 มีปริมาณเที่ยวบินคงที่ แต่ในช่วงครึ่งเดือนหลัง ตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์ พบว่า ปริมาณเที่ยวบินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ อัตราการพบผู้ติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้เที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศลดลง และมาตรการควบคุมการระบาดของโรค โดยให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ส่งผลให้เที่ยวบินในประเทศลดลง
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าว บวท. ได้วิเคราะห์ผลกระทบของปริมาณเที่ยวบินว่าจะมีความรุนแรงเพียง 3 เดือน คือ เดือน ม.ค. 2564 ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอก 2 และเดือน เม.ย. กับเดือนพ.ค. 2564 ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอก 3 นี้ โดยหลังจากนั้นจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในเดือน มิ.ย. 2564 จากการที่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ผ่อนคลายมาตรการการจำกัดการทำการบิน
รวมถึงการจัดหาวัคซีนและกระจายฉีดวัคซีนได้ตามแผนของภาครัฐ ประกอบกับนโยบายการเปิดประเทศ ตามแผนที่วางไว้ในเดือน ก.ค. 2564 ซึ่งคาดว่าปริมาณเที่ยวบินจะเริ่มกลับมาดีขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. 2564 โดยเฉลี่ยวันละ 1,095 เที่ยวบิน ซึ่งเป็นตัวเลขเท่ากับช่วงเดือน ธ.ค. 2563 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2
โดย บวท. คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินประจำปีงบประมาณ 2564 (ระหว่าง ต.ค. 2563 – ก.ย. 2564) ไว้ที่ 323,093 เที่ยวบิน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 518,790 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 38%
อย่างไรก็ตาม ปริมาณเที่ยวบินและภาพรวมของอุตสาหกรรมการบินยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และการจัดหาวัคซีน รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายทางการบินของ กพท. ซึ่งหากไม่สามารถเปิดประเทศได้ตามแผนในเดือน ก.ค. 2564 หรือหากมีการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ จะส่งผลต่อปริมาณเที่ยวบินและการเดินทางในภาพรวม โดย บวท. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและทบทวนตัวเลขปริมาณเที่ยวบินอีกครั้ง