วันที่ 4 พ.ย. สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงสถานการณ์การเมือง หลังวันที่ 15 พ.ย.นี้ว่า การเมืองไทยหลังจากนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เพราะศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำพิพากษาตัดสินคดีการถือหุ้นไอทีวี ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมทั้งการเอา ม.112 มาเป็นนโยบายหาเสียงผ่านรัฐธรรมนูญ
โดย สามารถ มั่นใจว่า ทั้งสองประเด็นจะส่งผลให้พรรคก้าวไกลถูกสั่งยุบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการการแก้ไข ม.112 ซึ่งคนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องอยู่เหนือการเมืองมาโดยตลอด ตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญกฎหมายฉบับแรก ปี 2475
สามารถ ยังวิเคราะห์การเมืองด้วยว่า หลังมีการยุบพรรคก้าวไกล สมาชิกเสียงแตกจะออกเป็นหลายฝ่าย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะการประชุมพรรคครั้งล่าสุด ที่มีมติขับ สส.ปราจีนบุรี แต่ไม่ได้ขับ สส.กมม. ที่มีคดีความคุกคามทางเพศ ทำให้เกิดสองมาตราฐานจนเกิดความขัดแย้ง จนกระทั่งเป็นที่มาของสัญญาณจอดำ จาก สส.หญิง ในพรรคหลายคน ชนวนเหตุเหล่านี้ทำให้เชื่อมั่นว่า จากนี้พรรคก้าวไกลเสียงจะแตกอย่างแน่นอน ทั้งยังมีการล่ารายชื่อให้เปิดชื่อคนอุ้ม สส.กทม ด้วย
“นี่คือความขัดแย้ง ถ้ายุบพรรคก้าวไกล จะไม่เหมือนภาพการยุบพรรคอนาคตใหม่ในอดีต เพราะวันนั้น สส.ส่วนมากเขาเดินตามไปพรรคก้าวไกลหมด แต่วันนี้ 151 เสียง ผมมั่นใจว่า ไม่ถึง 60% ที่จะตาม ชัยธวัช ตุลาธน หรือแกนนำแถว 3 ไปพรรคที่ก่อตั้งใหม่แน่” สามารถ กล่าว
สามารถ ยังย้ำด้วยว่า ที่ผ่านพรรคก้าวไกลซึ่งมีเสียงมากถึง 151 เสียง กลับไม่ได้ทำหน้าของตัวเองในการตรวจสอบรัฐบาลแม้แต่น้อย ทั้งการอภิปรายทั่วไป อภิปรายไม่ไว้วางใจ และการยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นเวลานี้ มองได้ว่า พรรคก้าวไกลไม่เป็นเอกภาพ ส่งผลการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหลังกลางเดือนนี้แน่
“ผมขอจำลองเหตุการณ์ว่า ถ้า สส. จะเดินออกไปพรรคอื่นแน่ ผมคิดแค่เพียง 70 คนก็พอ ถ้าเดินไปพรรคอนาคตไกล จับมือพรรคพลังประชารัฐซึ่งมี 40 เสียง รวมเป็น 110 วันนี้ภูมิใจไทย เองไม่แฮปปี้กับรัฐบาล จะเห็นได้หลายกรณีที่เกิดขึ้น มี สส.ภูมิใจไทยออกมาถล่มรัฐบาล ทั้งเรื่องเงินดิจิทัล ทั้งเรื่องค้านหมอชลน่าน ถ้าพรรคภูมิใจไทยถอนออก 71 เสียง 110+71 เป็น 181 เสียง เอาประชาธิปัตย์ มา 25 เสียง รวมกับรวมไทยสร้างชาติ37 เสียง ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง รวม 253 เสียง ก็เป็นรัฐบาลได้แล้ว ฉนั้น 15 พ.ย. มันจะเปลี่ยนการเมืองไทยหรือไม่ จะปรับ ครม. เปลี่ยนนายกฯ หรือไม่ ต้องจับตามอง หลัง 15 พย.ไปแล้ว การเมืองจะเปลี่ยนแน่นอน” สามารถ กล่าว