วันนี้ (2 กรกฎาคม 2568) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาที่เรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี และ เรือนจำกลางคลองเปรม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเข้าเยี่ยมผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความมั่นคง จังหวัดชายแดนภาคใต้ แบบใกล้ชิด เสริมสร้างกำลังใจ แก่ครอบครัวกลุ่มเปราะบาง ผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ จัดโดย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อเติมเต็มกำลังใจในการใช้ชีวิตโดยขาดเสาหลักของครอบครัว ลดความรู้สึกหวาดระแวง และให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดความสำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แก่การพัฒนาพฤติกรรมนิสัยผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ของเรือนจำ โดย ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการควบคุมผู้ต้องขังอย่างเคร่งครัด โดยมี พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อม นายเผด็จ หริ่งรอด ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม และคณะ ร่วมให้การต้อนรับ โดยมี ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปัตตานี พรรคประชาชาติ ให้เกียรติ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย
กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ "เสริมสร้างกำลังใจแก่ครอบครัวกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ ตามแนวทางกระบวนการยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่าน" สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2568) รวมระยะเวลากว่า 21 ปี ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครอบครัวผู้ต้องขังคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนใต้ ครอบครัวเหล่านี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ขาดเสาหลัก รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย และยังมีความหวาดระแวงต่อภาครัฐ ทำให้เป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องการการดูแลและเยียวยา โดยเฉพาะด้านสภาพจิตใจ เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
การดูแลและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มครอบครัวผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความมั่นคง ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสร้างความรู้สึกเชิงบวกต่อภาครัฐ และผลักดันให้กลุ่มนี้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ต่อไป ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้ริเริ่มกิจกรรมเสริมสร้างพลังเด็ก เยาวชน และกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ โดยมุ่งเน้นที่ครอบครัวของผู้ต้องขังคดีความมั่นคงที่อยู่ระหว่างการรับโทษในเรือนจำ และไม่สามารถเดินทางมาเยี่ยมญาติได้บ่อยครั้งเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ในฐานะของผู้ที่เคยทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่ที่เชื่อมั่นเสมอกับคำกล่าวที่ว่า “มนุษย์ทุกคนคือพี่น้องกัน” ในบทบาทรัฐมนตรีได้นำนโยบาย “ยุติธรรมที่ฟื้นฟู” มาขับเคลื่อนอย่างจริงจัง นี่คือกระบวนการยุติธรรมที่ไม่มุ่งเพียงการลงโทษ แต่ให้ความสำคัญกับการเยียวยาผู้เสียหาย ฟื้นฟูผู้กระทำผิด และฟื้นความสัมพันธ์ในสังคมให้กลับคืนด้วยความเข้าใจ เรือนจำไม่ควรเป็นเพียงสถานที่ควบคุมตัว แต่ควรเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งชีวิต” ที่ให้โอกาสแก่ผู้เคยหลงทาง ได้กลับมาค้นพบคุณค่าของตนเอง
”วันนี้เป็นบทพิสูจน์ว่าทุกคนมีความเป็นมนุษย์ที่มีศักยภาพ มีความหวัง และในครอบครัวของพวกเขา คือ ของขวัญที่มีจิตวิญญาณ คือ แรงใจ ที่พร้อมจะรอคอยพวกเขากลับคืนอย่างมั่นคง“ - พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงยุติธรรม เล็งเห็นถึงปัญหาและความต้องการของกลุ่มครอบครัวผู้ต้องขังคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนใต้ จึงได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่านสำหรับกลุ่มเปราะบาง โดยมีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน
ก่อนหน้านี้ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการย้ายผู้ต้องราชทัณฑ์บางส่วนจากเรือนจำส่วนกลางกลับไปยังเรือนจำในพื้นที่ส่วนภูมิภาคใกล้เคียง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเยี่ยมญาติ กิจกรรมเยี่ยมผู้ต้องขังในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ และครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบฯ โดยมีญาติเข้าร่วมกิจกรรมด้วย
ก่อนเดินทางกลับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ยังได้แวะรับประทานอาหารที่ครัวชวนชม ร้านอาหารในสถานฝึกวิชาชีพทัณฑสถานหญิงกลาง บริเวณข้างเรือนจำคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน โดยได้กล่าวทักทายประชาชนที่มาร่วมกับประทานอาหารด้วย ก่อนเดินทางกลับกระทรวงยุติธรรม แจ้งวัฒนะ ในเวลา 13.30 น.