วันที่ 20 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ระบุว่า หลังจากนี้พรรคก้าวไกลและพรรคฝ่ายค้านทุกพรรคจะมีการพูดคุยกัน เพื่อหารือแนวทางการทำงานร่วมกันในฐานะฝ่ายค้าน
"พรรคฝ่ายค้านจะทำงานอย่างเต็มที่อย่างที่ประชาชนคาดหวังและไว้วางใจ จะทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารโดยยึดเอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้ง ตรงไปตรงมา"
ในขณะเดียวกัน ชัยธวัช ยังกล่าวว่า ฝ่ายค้านและฝ่ายบริหาร รวมถึง สส.ฝ่ายรัฐบาล ยังสามารถร่วมมือกันผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายและการผลักดันวาระต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องตรงข้ามกันตลอดไป พร้อมหวังว่าหลังจากนี้กระบวนการนิติบัญญัติในสภาจะเข้มข้นมากขึ้น
โดยเบื้องต้นจะหารือกันถึงการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณฯ ในต้นเดือน ม.ค. นี้ เดิมทั้งแกนนำพรรคฝ่ายค้านและวิปฝ่ายค้านที่วางไว้วันว่าพรุ่งนี้ ( 21 ธ.ค.) จะเชิญฝ่ายค้านมาหารือกัน แต่คงต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ทางคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่จะมีการประชุมกัน หลังปีใหม่จึงจะประชุมพรรคฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ
ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ชัยธวัช ยอมรับว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน เนื่องจากที่ผ่านมาทุกพรรครอให้มีการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการ โดยพรรคก้าวไกลจะยึดเอาข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นตัวตั้งไม่ได้ตั้งเป้าจะอภิปรายให้ได้
ชัยธวัช ย้ำว่า ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคก้าวไกลจำเป็นต้องทำงานด้วยกันให้เกียรติและไว้วางใจซึ่งกันและกัน หากมีแผนงานหรือเป้าหมายร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมคิดว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี
เมื่อถามว่าจะมีการประสานความร่วมมือและ ระหว่างฝ่ายและฝ่ายรัฐบาลอย่างไร ชัยธวัช กล่าวว่า จากนี้จะตรวจสอบถ่วงดุลไม่จำเป็นต้องค้านฝ่ายรัฐบาลทุกเรื่อง ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆไป ซึ่งบางเรื่องที่เป็นประโยชน์ของประชาชน เรื่องที่ถูกต้อง สามารถร่วมมือกันได้
"ฝ่ายค้านสนับสนุนสิ่งที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอในสภาได้ ไม่จำเป็นต้องแย้งเสมอไป ในทางกลับกันหวังว่าฝ่ายรัฐบาลก็สามารถที่จะร่วมมือผลักดันสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอด้วยเช่นกัน ซึ่งในสัปดาห์นี้คงได้เห็นความร่วมมือกันในหลายเรื่อง เช่น การพิจารณากฎหมายสมรสเท่าเทียม และร่างกฏหมายสภาชนเผ่า และร่างกฎหมายทำนองเดียวกัน ที่ได้พูดคุยกันว่าจะร่วมมือกัน" ชัยธวัช กล่าว
ชัยธวัช กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคดีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง หลังมีความพยายามเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
โดย ชัยธวัช ระบุว่า ฝ่ายกฎหมายได้เตรียมพร้อมและส่งเอกสารชี้แจงเพื่อประกอบการไต่สวน ในวันที่ 25 ธ.ค. นี้ เชื่อว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลไม่เป็นความผิดตามคำร้อง แต่ต้องรอและหวังว่าเมื่อไต่สวนแล้ว หากไม่มีการไต่สวนเพิ่ม ศาลจะนัดวิจิจฉัยในช่วงปลายเดือน ม.ค. หรือ ต้น ก.พ. 2567
“ผมไม่กังวลว่าจะไปถึงการยุบพรรค เพราะคดีนี้เป็นการร้องให้ยุติการรกระทำ ไม่สามารถไปไกลถึงเรื่องยุบพรรคได้ พรรคต่อสู้เต็มที่ เพราะการเสนอร่างกฎหมายใดๆ ไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้ เพราะกระบวนการทางนิติบัญญัติมีกรอบชัดเจนว่าไม่สามารถขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญได้” ชัยธวัช กล่าว
ชัยธวัช กล่าวย้ำด้วยว่า ในกระบวนการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญนั้น สามารถเกิดได้ทั้งก่อนหรือหลังประกาศใช้โดยศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การเสนอร่างกฎหมายเพื่อแก้ไขกฎหมายใด ไม่เฉพาะมาตรา 112 ในกระบวนการทางนิติบัญญัติไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้ด้วยตัวของร่างกฎหมายนั้นๆ