สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 21 ก.ค.2564 เพิ่มขึ้น 510,108 ราย ยอดสะสม 192,228,307 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 8,267 ราย เสียชีวิตสะสม 4,133,324 ราย สหรัฐอเมริกา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 44,232 ราย ยอดสะสม 35,081,719 ราย อินเดีย ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 42,123 ราย ยอดสะสม 31,215,142 ราย บราซิล เพิ่มขึ้น 27,896 ราย ยอดสะสม 19,419,741 ราย

ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 51 ของโลก ยอดผู้ป่วยสะสม 439,477 ราย เพิ่มขึ้น 13,002 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 108 ราย เสียชีวิตสะสม 3,610 ราย ผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ 131,411 ราย อาการหนัก 3,786 รายใส่เครื่องช่วยหายใจ 879 ราย

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงว่า ผู้เสียชีวิตอยู่ใน กรุงเทพมหานคร 40 ราย สมุทรสาคร 13 ราย นครปฐม ปทุมธานี ปราจีนบุรี จังหวัดละ 4 ราย สมุทรปราการ นครนายก จังหวัดละ 3 ราย สงขลา 7 ราย ยะลา ปัตตานี ชลบุรี ร้อยเอ็ด จังหวัดละ 2 ราย นนทบุรี สระแก้ว ขอนแก่น อุบลราชธานี กำแพงเพชร นครสวรรค์ ชัยนาท พิษณุโลก สุโขทัย นครราชสีมา จังหวัดละ 1 ราย

สำหรับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ถึงวันที่ 20 ก.ค.นี้ มีการฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งสิ้น 14,805,120 โดส เข็มที่หนึ่ง 11,292,579 ราย เข็มที่สอง 3,512,541 ราย

10 อันดับ จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด กรุงเทพมหานคร 2,921 ราย สมุทรสาคร 932 ราย นนทบุรี 611 ราย สมุทรปราการ 656 ราย ชลบุรี 636 ราย ฉะเชิงเทรา 674 รายปทุมธานี 350 ราย ระยอง 305 รายปัตตานี 282 ราย พระนครศรีอยุธยา 235 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ศบค.รับรายงานการพบคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานห้องเย็น อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 24 ราย ,โรงงานอาหารเลี้ยงสัตว์ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 40 ราย , บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง 92 ราย ตลาดสิริภิบาลพัฒนา อ.แกลง จ.ระยอง 12 ราย

พญ.อภิสมัย เปิดเผยว่า เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ กทม.ขณะที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า โดยมี 5 เขตหลักที่พบรายงานการติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้ามาก จตุจักร บางรัก จอมทอง คลองเตย หลักสี่ ทำให้กรุงเทพมหานคร ต้องจัดทีมปฏิบัติการเชิงรุกในชุมชนเพื่อค้นหาผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขณะที่กรมควบคุมโรค แจ้งว่า จะมีการเพิ่มหญิงตั้งครรภ์หลัง 12 สัปดาห์ ให้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องได้รับวัคชีน สำหรับผู้หญิงที่ไม่มั่นใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ขอให้ไปตรวจก่อนที่จะฉีดวัคซีน

ปิดเพิ่ม 10 กิจการตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 สนามกีฬาทุกประเภท- สวนสาธารณะ- ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านสัก 

พญ.อภิสมัย ยังระบุว่า วันนี้ (21 ก.ค.) ได้เริ่มมาตรการในข้อกำหนดฉบับที่28 ที่ออกตามมาตรา9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. วันที่ (21ก.ค.) ที่ผ่านมา โดยขอเน้นย้ำ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรีปทุมธานี สมุทรปราการ สงขลา ปัตตานี นราธิวาสยะลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จะมีผลบังคับใช้เรื่องการงดเดินทางไปยังพื้นที่อื่น รวมถึงการบินพลเรือนมีการงดบิน รวมถึงรถร่วมเอกชนหยุดดำเนินการยกเว้นกรณีจำเป็นที่ยังทำได้เช่นขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนการขนส่งสาธารณะทั้ง รถยนต์ รถไฟ เครื่องบินระหว่างจังหวัดหากเป็นพื้นที่สีแดงเข้มจะไม่มีการดำเนินการไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกพื้นที่สีแดงเข้ม ส่วนการเดินทางระหว่างในพื้นที่ด้วยกันลดบริการขนส่งสาธารณะ 50% 

อย่างไรก็ตามที่มีข้อสงสัยเรื่องกิจการกิจกรรมสิ่งที่เปิดได้และสิ่งที่จำเป็นต้องปิด ในส่วนของกิจการที่ปิดแน่นอน 23 กิจการด้วยกัน คือ 1. สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน 2. สถานประกอบกิจการอาบอบนวด 3. สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอบไอน้ำ อบสมุนไพร 4. สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่ 5. สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน 6. สนามมวย โรงเรียนสอนมวย 7. สนามม้า 8. สนามแข่งขันทุกประเภท 9. โต๊ะสนุ้กบิลเลียด 10. สถานที่เล่นโบลิ่งหรือตู้เกม 11. ร้านเกมและร้านอินเทอร์เน็ต

12.โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร 13.สถานที่แสดงมหรสพ หรือสถานที่ที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ 14.สวนน้ำ สวนสนุก 15. สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก 16.สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์ 17.สถานที่เล่นสเก็ต หรือโรลเลอร์เบลดหรือการเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 18.สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส 19.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) 20.สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ 21.สถานที่ให้บริการห้องประชุมห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน 22.ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา 23. สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก สถานเสริมความงาม คลินิกเสริมความงาม (ไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นคลินิกเวชกรรม) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เช่น กิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดฝ่าเท้า

และวันนี้ (21 ก.ค.) เพิ่มเติมปิดอีก 10 รายการ เจตนารมณ์คำสั่งข้อกำหนด ฉบับที่ 28

1. ให้พิจารณาปิดสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมจากที่กรุงเทพมหานคร หรือจังหวัด ได้มีประกาศ/คำสั่งปิดแล้ว ดังนี้ 1.1 สนามกีฬาทุกประเภท (ประเภทในร่ม เช่น แบดมินตัน สนามฟุตซอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ประเภทกลางแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ สนามซ้อมกอล์ฟ สนามฟุตบอลสนามเทนนิส) 1.2 สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำ เพื่อการสันทนาการสระว่ายน้ำสาธารณะหรือกิจการอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 1.3 ลานกีฬา 1.4 ศูนย์แสดงสินค้าศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ 1.5 ศูนย์การเรียนรู้หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาอุทยานวิทยาศาสตร์ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมหรือหอศิลป์ 1.6 ห้องสมุดสาธารณะห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ 1.7 พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์สถาณ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในลักษณะเดียวกัน แหล่งประวัติศาสตร์หรือโบราณสถาณ 1.8 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน 1.9 ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม หรือแต่งผม ร้านทำเล็บ หรือร้านสัก (ไม่ว่าจะเป็นในห้าง หรือนอกห้าง ตามข้อกำหนดต้องปิดทั้งหมด) และ1.10 สวนสาธารณะสวนพฤกษศาสตร์ต่างๆ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า 2.ในกรณีให้พิจารณาเปิดสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไขควบคุมโรค ดังนี้

2.1 สถานที่รับเลี้ยงเด็กเฉพาะสถานที่รับเลี้ยงเด็กในโรงพยาบาล และที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ 2.2 สถานที่ดูแลผู้สูงอายุเฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ 2.3 ตลาดนัดเฉพาะส่วนที่ขายอาหารหรือวัตถุดิบเพื่อการบริโภค ซึ่งในส่วนนี้สาธารณสุขมีความเป็นห่วง แค่ในที่ประชุมศบค. เข้าใจบริบทของสังคม เพราะตลาดสด ตลาดนัดมีความเชื่อมโยง ใกล้ชิดกับชุมชนหากมีการปิดทั้งหมด เกรงว่าจะมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตมากพอสมควร อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังคณะกรรมการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการกำกับดูแลเข้มงวด ในส่วนของตลาดสด ตลาดนัด และหากมีพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถพิจารณาปิดเพิ่มเติมได้นอกเหนือจากข้อกำหนด พร้อมขอประชาชนให้ความร่วมมือเมื่อมีความพยายามกำหนดมาตรการอย่างเข้มงวด การกำกับติดตามต้องทำอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกัน และใน 14 วันหากทำให้สถานการณ์ดีขึ้นการผ่อนคลายจะตามมา