พรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 128 คน และแบบเบ่งเขต 350 คน โดยก่อนหน้านี้พรรคอนาคตใหม่ได้เปิด 10 รายชื่อปาตี้ลิสต์ 3 อันดับแรกประกอบไปด้วย 1.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 2.นายปิยบุตร แสงกนกกุล 3.นางวรรณวิภา ไม้สน
สำหรับงานแถลงข่าววันนี้มีแกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเข้าร่วมงาน อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พลโทพงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เป็นต้น
โดยนายปิยุบตร ได้แนะนำรายชื่อผู้สมัครทั้งสอบแบบรวม 478 คน กล่าวได้ว่าคือรุ่นทางการเมืองใหม่ อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเหล่านี้ได้เคยทำงานและประสบความสำเร็จมาแล้ว ไม่ว่าจะงานด้านธุริกิจหรืองานวิชาการ รวมถึงการเคลื่อนไหวในประเด็นต่างๆ
ซึ่งล้วนแต่ทนเห็นความขัดแย้งทางการเมืองตลอด10กว่าปีที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่จึงเป็นการหลอมรวมกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ที่มีความหลากหลายมารวมตัวกัน เพื่อที่จะยุติปัญหาการเมืองแบบเดิม โดยเชื่อว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยพลังการเมืองใหม่
ขณะที่ผู้สมัครส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ประกอบด้วย นักธุรกิจ Start up freelance 135 คน ข้าราชการ และผู้ที่เกษียณอายุ 69 คน ผู้หญิง และ LGBTQ 71 คน แรงงานพนักงาน 55 คน เกษตรกร 18 คน องค์กรสาธารณะ 11 คน และ กลุ่มชาติพันธุ์ 7 คน
สำหรับที่เหตุผลที่พรรคอนาคตใหม่ เสนอให้นายธนาธรเป็นแคนิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ประกอบไปด้วย3 ด้าน คือ 1.ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ 2.มีจุดยืนด้านประชาธิปไตย 3.เป็นคนรุ่นใหม่ทางการเมืองไร้คู่ขัดแย้ง
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เน้นย้ำว่านายธนาธรมีความเหมาะสมที่สุด ในการนายกรัฐมนตรี ในวัย 40 ปี ส่วนความพร้อมของอนาคตใหม่ ผู้สมัครพร้อมทุกสนามเลือกตั้ง เพื่อก้าวไปปักธงของการเปลี่ยนแปลง
ด้านธนาธร ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ดังที่ผ่านมาของในยุคสมัย ที่กลุ่มทุนใหญ่มีความสุมพันธ์กับกองทัพ จึงไม่เคยมีพรรคการเมืองที่จะแก้ไขที่ปัญหาโครงสร้าง ยุติระบบอุปถัมภ์ ทุนผูกขาด ข้าราชการระดับสูง รวมถึงผู้นำกองทัพ
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุอีกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ภายหลังเรียนจบได้ประกาศว่าจะทำให้ไทยซัมมิท เป็นที่หนึ่งในอาเซียน ท่ามกลางเสียงปรามาสของบอร์ดบริหาร แต่ในปัจจุบันจะเห็นว่าไทยซัมมิทได้กลายเป็นแถวหน้าในองค์กรอุตสาหกรรม
ต่อมาอีก 20 ปี ตนได้ร่วมกับผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ก็ถูกปรามาสว่าจะทำได้จริงหรือ จึงเห็นว่าทุกการเปลี่ยนแปลงต้องกล้าที่จะเสี่ยงและกล้าลงทุน ดังนั้นจึงขออาสาเป็นกองหน้าในการเปลี่ยนแปลงสังคม พร้อมกับชาวอนาคตใหม่ และขอเชิญชวนผู้ที่อยากเห็นการเปลี่ยนร่วมเดินทางไปพร้อมกับพวกเรา
"อย่ารอคอยการเปลี่ยนแปลง แต่จงมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้" ธนาธร กล่าว
อย่างไรก็ดีตลอดระยะเวลาการก่อตั้งพรรคมาร่วม 8 เดือน ได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนผลการเลือกตั้งจะแพ้หรือชนะนั้น ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะเดินหน้าทำงานในระยะยาว วันนี้พรรคอนาคตใหม่ พร้อมแล้วในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
ส่วนกรณีมีการห้ามนักศึกษาในการทำกิจกรรมล้อผู้มีอำนาจในรัฐบาล นายธนาธร เห็นว่า คสช.ได้ทำลายหลักการสิทธิเสรีภาพ ซึ่งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งควรจะทำให้บรรยากาศในการเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งอยู่ภายใต้การปิดกั้น