ความเป็นไทย กับดีไซน์ คัลเจอร์
เมื่อพูดถึง “ความเป็นไทย” ใครหลาย ๆ คน อาจจินตนาการไปในขอบข่ายทางวัฒนธรรม เช่น การแสดงนาฏศิลป์ไทย ปราสาท วิหาร วัดวาอาราม ลายกนก ผ้าไทย หรือแม้กระทั่ง ภาพในวรรณคดี ที่มีกินรีและหนุมานร่ายรำอย่างอ่อนช้อย ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว “ความเป็นไทย” ในบริบททางสังคมยุคปัจจุบัน มีความมายกว้างขวางมากกว่าตัวอย่างที่กล่าวมาขั้นต้น
พักเรื่องความเป็นไทยไว้ก่อน...
เปลี่ยนไปคุยเรื่อง "แวดวงสินค้าดีไซน์ขายไอเดีย" กันบ้าง เป็นที่รู้กันว่า เมื่อพูดถึงสินค้าส่งออก หลายประเทศต่างนำ “ความเป็นเอกลักษณ์ของชาติ” ของตน มาใช้ต่างส่วนผสม เพื่อปรุงแต่งสินค้าทางวัฒนธรรมของประเทศตน ให้มีกลิ่นอายของความเป็นชาติ แบบที่เห็นแล้วร้องอ๋อ...เพราะรู้ที่มาว่าซื้อมาจากที่ไหน ซึ่งตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือสินค้าจากจ้าวแห่งเทคโนโลยีอย่าง "ญี่ปุ่น" ที่ไม่ว่าจะประดิษฐ์อะไร ขายอะไร ก็ดูจะประสบความสำเร็จ ขายดีขายได้ไปเสียหมด โดยความน่าสนใจอยู่ที่ สินค้าดีไซน์ที่ขายดีส่วนใหญ่ ต่างผะยี่ห้อแจแปนเอาไว้ แบบไม่ต้องอาศัยโลโก้หรือสติ๊กเกอร์ เพราะเขาได้ผสานเอาความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้ ในสินค้าทุกชิ้นทุกแบบ ...ว่าแต่ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ??
อย่างไรก็ตาม ขออนุญาตนำท่านกลับมาสู่ความเป็นไทย ด้วยการเชิญชวนให้ผู้ชมลองจินตนาการเล่น ๆ ตามสโลแกน “คิดเล่นเห็นต่าง” ว่ามีสินค้าขายดีไซน์อะไรบ้าง ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของไทย ขอให้ยกตัวอย่างสิ่งที่เมื่อพูดขึ้นมาแล้ว คนทั้งโลกรู้จัก...
อืม...“ต้มยำกุ้ง” “มวยไทย”.... ถ้าสองอย่างนี้คือคำตอบที่ท่านคิด เราขอเฉลยว่า “ผิด” เพราะทั้งสองอย่างไม่ใช่ “สินค้าขายดีไซน์” ในความหมายที่เรากำลังพูดถึง
ว่าแต่...สินค้าขายดีไซน์ของไทย ทำไมไม่ก้าวไกลสู่สากล??
หนึ่งในความยากของการผลักดันสินค้าดีไซน์ไทยสู่ตลาดโลก เกิดจากปัญหาใหญ่คือ “การยึดติดกรอบความเป็นไทย” นี่เอง ซึ่งประเด็นนี้ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ในการนำมาวิพากษ์กันอย่างสนุก และเป็นที่มาของ “รายการคิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา ตอน วัฒนธรรมไทยกับดีไซน์ คัลเจอร์” กับตัวอย่างที่ “คำผกา” นำมาเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ที่สนใจ นำไปคิดต่อ เพราะบางที ความคิดเล่น ๆ ของคนกลุ่มเล็ก ๆ อาจนำไปสู่ปลายทางที่ยิ่งใหญ่ กับ หนทางที่สินค้าไทย ๆ จะก้าวไกลสู่ตลาดโลกอย่างแท้จริง
Produced by VoiceTV