สหวิริยาสตีลฯ เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้รวมกว่า 50,000 ล้านบาท หลังโรงงานผลิตเหล็กในอังกฤษหยุดเดินเครื่องไม่มีกำหนด เหตุเศรษฐกิจจีนตกต่ำ ยอมรับอุตสาหกรรมเหล็กและเหมืองแร่ เข้าสู่ภาวะขาลง
นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด(มหาชน) หรือ เอสเอสไอ ยอมรับว่า ได้หยุดการผลิตในโรงงานผลิตเหล็กแท่งแบน เอสเอสไอทีไซด์ บริษัทลูกของสหวิริยา อินดัสตรี ยูเค จำกัด ประเทศอังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีน จนมีปริมาณเหล็กส่งออกล้นตลาด ประกอบกับราคาน้ำมันขาลง และค่าเงินรูเบิลตกต่ำมากเป็นประวัติการณ์ จนกระทบราคาเหล็กลดต่ำกว่าปกติ 40%
นับตั้งแต่บริษัท ดำเนินกิจการในอังกฤษเมื่อ 4 ปีก่อน ผลประกอบการขาดทุน 3 ปีติด แม้จะพยายามลดต้นทุน 30% จนมีกำไรก่อนหักค่าเสื่อมและดอกเบี้ย หรือ อีบิด้า ช่วงไตรมาส 2 ของปีก่อน(57) แต่ไม่เพียงพอสร้างรายได้ต่อเนื่อง จึงได้ปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินไทย 3 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ , กรุงไทย และทิสโก้ มูลหนี้รวมกว่า 50,000 ล้านบาท ไม่รวมเจ้าหนี้การค้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมปรับโครงสร้างหนี้ คาดจะได้ข้อสรุปโดยเร็ว แต่ยังไม่ทิ้งแผนขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง หรือ พีพี
มูลหนี้ดังกล่าว เป็นของโรงงานสหวิริยาสตีลฯ ในไทยและอังกฤษ สัดส่วน 50 ต่อ 50 แบ่งเป็นธนาคารไทยพาณิชย์และกรุงไทย แห่งละ 22,000 ล้านบาท และอีก 4,400 ล้านบาท ของทิสโก้ ยอมรับอุตสาหกรรมเหล็กและเหมืองแร่ เข้าสู่ภาวะขาลงแล้ว หลังมีโรงงานผลิตเหล็กทยอยปิดตัวต่อเนื่อง
ส่วนพนักงานที่อังกฤษ มีอยู่ราว 2,000 คน บริษัทอยู่ระหว่างหารือกับรัฐบาลอังกฤษ สหภาพแรงงานและตัวแทนพนักงานเพื่อชดเชยและดูแลพนักงานดังกล่าว
Source
- http://www.ssi-steel.com/