นายอลงกรณ์ พลบุตร ได้ถึง กรณี 'ไอติม-พริษฐ์' เสนอให้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านอิสระ และมีความเห็นจากพลโท นันทเดช และคุณทยา ฯลฯ... โดยนายอลงกรณ์ระบุว่า '....จะถูกจะผิดจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ทุกคนควรเคารพความเห็นที่กันและกัน หากมีความคิดแตกต่างก็เสนอเหตุผลข้อเท็จจริง นี่คือประการแรกที่ขอติงเอาไว้ครับ อีกประการคือ ในพรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรมองค์กรเปิดกว้าง แต่ละคนมีเสรีภาพทางความคิดในประเด็นการเมืองซึ่งเป็นปกติวิสัยของสถาบันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและเมื่อพรรคมีมติออกมาเราก็มีวินัยพรรคในการต้องปฏิบัติตาม
นอกจากนี้ การวิจารณ์ข้ามพรรคพึงรักษามารยาทหากไม่เห็นด้วยก็วิจารณ์ด้วยตรรกะเหตุผลที่เห็นต่างอย่างสุภาพให้เกียรติกันและหลีกเลี้ยงการดูถูกเสียดสีเหยียดหยามน่าจะเป็นแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมกว่า
คุณพริษฐ์เป็นสมาชิกพรรคที่เป็นคนรุ่นใหม่เป็นหนึ่งในกลุ่มนิวเดม (New Dem) มีคุณวุฒิวัยวุฒิและภูมิหลังที่ดี ดังนั้นการแสดงออกซึ่งจุดยืนและความคิดทางการเมือง (ความเห็นส่วนตัวของคุณพริษฐ์ไม่ใช่ของกลุ่มนิวเดม) ที่เสนอต่อพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนสังกัดจึงเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว
เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีมติว่าจะร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านซึ่งในการประชุมร่วมระหว่างรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคกับอดีต ส.ส. กว่า 100 คน เมื่อวันที่ 29มีนาคมที่ผ่านมา ก็รับฟังความเห็นของทุกคนอย่างเปิดกว้างมีทั้งประสงค์ให้ร่วมรัฐบาลและเป็นฝ่ายค้านโดยที่ประชุมมีแนวทางชัดเจนเป็นข้อสรุปว่าให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่และ ส.ส.ใหม่ ที่จะมีการรับรองผล โดย กกต.ในวันที่ 9พ.ค. เป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทยก็จะตัดสินใจเรื่องร่วมรัฐบาลหรือไม่หลังวันประกาศรับรองผลส.ส.เช่นกัน
ผมเชื่อว่า ทุกคนรักชาติบ้านเมืองไม่ต้องการให้เกิดทางตันทางการเมือง ขอให้มั่นใจว่าการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ยึดประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งและคำนึงถึงอนาคตของประเทศมากกว่าอนาคตของพรรคตัวเองโดยพร้อมจะร่วมมือกับทุกฝ่ายพาประเทศเดินไปข้างหน้าสู่อนาคตที่ดีกว่าไม่ใช่เดินไปสู่ทางตันหรือวิกฤติของชาติครั้งใหม่ สำหรับภารกิจระหว่างนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะให้ความสำคัญสูงสุดต่องานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉกเช่นพสกนิกรคนไทยทุกคนครับ'