องค์การอนามัยโลกเผยว่า มีคนราวหนึ่งล้านสี่แสนคนทั่วโลก ที่กำลังเสี่ยงเป็นโรคร้ายแรง ซึ่งเป็นผลมาจากการไม่ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ
องค์การอนามัยโลกเผยผลการศึกษาล่าสุดที่ระบุว่า ผู้หญิงหนึ่งในสาม และผู้ชายหนึ่งในสี่ของทั้งโลก กำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต โดยมีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากนัก รวมถึงการไม่ยอมออกกำลังกาย
โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ในแต่ละสัปดาห์ ผู้ใหญ่ควรออกกำลังกายที่ใช้พลังงานปานกลางอย่างน้อย 150 นาที เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยานเบา ๆ หรือจะออกกำลังกายด้วยกิจกรรมที่ใช้พลังงานสูง อย่างการวิ่งและกีฬาที่เล่นเป็นทีม เป็นเวลา 75 นาที
การศึกษานี้เก็บข้อมูลการทำกิจกรรมของคนหนึ่งล้านเก้าแสนคนทั่วโลกใน 168 ประเทศทั่วโลก ในปี 2016 ซึ่งผลที่ได้มานั้นไม่ได้พัฒนาขึ้นจากระดับการทำกิจกรรมที่บันทึกไว้เมื่อปี 2001 เลย แม้ว่าจะมีการริเริ่มโครงการด้านสาธารณสุขเป็นจำนวนมากในระหว่างนั้น
นอกจากนั้น ข้อมูลยังเผยว่า ผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งในสี่ของโลก หรือราวหนึ่งล้านสี่แสนคนนั้น ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเพียงพอ โดยผู้ทำการวิจัยยังแสดงความกังวลถึงเทรนด์ที่น่าเป็นห่วงหลายประเด็น เช่น ระดับการออกกำลังกายที่แตกต่างกันชัดเจนระหว่างประเทศที่รวยกับประเทศที่จน ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้ผู้คนเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง รวมถึงความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่จะถูกคาดหวังให้อยู่บ้าน ดูแลลูก ทำงานบ้านมากกว่าไปออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยเผยว่า ผู้หญิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ออกกำลังกายเท่ากับผู้ชาย และยังเป็นภูมิภาคเดียวที่มีระดับการเคลื่อนไหวร่างกายเพิ่มขึ้น นับจากปี 2001