รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 27 เมษายน 2563

“ใบตองแห้ง” กลั้นขำปมข่าวลือ ดัน “บิ๊กป้อม” นั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังพอรับได้ แต่จะปลด ”อุตตม” พ้น รมว.คลัง ถือว่าชน “สมคิด” ยิ่งขำหนัก เมื่อพบชื่อ “นฤมล” ที่ไม่ประสบความสำเร็จในฐานะโฆษกรัฐ แต่จะเป็น รมช. คลัง หวั่งประเทศจะลงเหว....แอดบอกเลย “คุณอาใบตองแห้ง”...แร้งสสสสส์!! ยิ่งกว่า 5G

 สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ อย่างหนักเพื่อเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคจาก นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค จนเกิดความปั่นป่วน โดยมีการผลักดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นเลขาธิการพรรค

แผนการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ เป็นการรวมพลังของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ที่นั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี กับบรรดาแกนนำของพรรคที่รวมกำลังหลายสายอาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น นายอนุชา นาคาศัย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ต้องการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคและต้องการปรับคณะรัฐมนตรี ใหญ่ในเดือนมิถุนายน 

"ปฏิบัติการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่มอบหมายให้ใครดำเนินการ หรือแค่ส่งสัญญาณ แต่แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร บอกกล่าวด้วยวาจากับนายอุตตมว่า ขอให้ลาออก และจะเป็นหัวหน้าพรรคแทน จากนั้นได้ส่งคนระดับ เสธ.อ. กดดันให้นายอุตตมเขียนใบลาออก แต่รายงานข่าวแจ้งว่า นายอุตตม ปฏิเสธ 

ด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีแหล่งข่าวในพรรค ออกมาเปิดเผยว่าจะปรับ ครม. 6 ตำแหน่ง โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง จะให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ขึ้นเป็นรมว.คลัง และให้นางนฤมล ภิญโญสิณวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรมช.คลัง ยืนยันว่า ไม่มีการปรับครม. และไม่เป็นความจริง เพราะสถานการณ์ตอนนี้ ต้องเอาเรื่องโควิดให้หายดีและเรียบร้อยก่อน 

ส่วนที่มีข่าวว่าจะให้นายอุตตม ลาออกจากตำแหน่ง หัวหน้าพรรค ย้ำว่าไม่มี ไม่ได้คุย เพราะยังไม่ได้ประชุมพรรค เมื่อถามย้ำว่า นายอุตตม ยังเป็นหัวหน้าพรรค ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ยังไม่รู้ แล้วแต่ที่ประชุมพรรค ถ้าที่ประชุมพรรคว่ายังไงก็ว่าตามเขา 

ส่วนที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐและการปรับโครงสร้างของพรรคออกมาในช่วงที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย พลเอกประวิตรตอบว่า ใครเป็นคนปล่อยข่าวก็ให้ไปถามคนนั้น  

ขณะที่ นายอุตตม กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ขอคุยในเรื่องการดูแลสู้ภัยโควิด-19 เพราะการดูแลเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการ เป็นภารกิจใหญ่ที่ได้รับมอบหมายภารกิจมาในฐานะ รมว.การคลัง สมองไม่ได้เอาไว้คิดในเรื่องของการเมือง ถ้ามีมันก็เป็นเรื่องของการเมือง แต่ส่วนตัวขอทำงานเรื่องที่ต้องทำเร่งด่วน คือ โควิดและที่เกี่ยวเนื่องต่อไป วันนี้ต้องให้ความสำคัญอันนั้นก่อน 

“ที่เป็นข่าวจะมีอะไร ใครไปพูดจากับกรรมการบริหารท่านไหน ท่านก็ต้องไปดู ผมก็ได้ข่าวมาเช่นเดียวกัน ว่ามีการพูดจาเช่นนั้นอยู่บ้าง ยืนยันว่าไม่ได้โทรมาหาผม แต่ว่ากรรมการบริหารบางท่านได้โทรมาเล่าให้ฟังว่ามีการติดต่อไป ในทำนองว่าก็ขอให้ลาออกจากกรรมการบริหาร ในส่วนของผมที่ว่ามีพูดจาบ้างไหม ผมก็เรียนตามตรงว่า ผู้ใหญ่ก็มีมาพูดจา ซึ่งในหลักการผมพร้อมที่จะคุยในทุกเรื่อง แต่ว่าวันนี้ส่วนตัวผมคิดว่างานมาก่อนอย่างเดียว ไม่ใช่เวลาที่จะมาดูในเรื่องของการปรับเปลี่ยนเชิงการเมืองในพรรค ขอทำงานวันนี้ก่อน เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ผมได้พูดออกไป เพราะฉะนั้นผมก็ยังอยู่ทำงาน

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระแสข่าวเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ว่า “เรื่องนี้ผมได้ยินมาจากข่าวที่นักข่าวเขียน บ้านเมืองกำลังเผชิญกับปัญหารุนแรงระดับโลก มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดนาทีนี้ต้องช่วยกันทำงานให้ประเทศรอดพ้นไปให้ได้ ไม่ใช่เวลามาพูดถึงอำนาจ จะเอาอำนาจไปทำอะไร ไม่เข้าใจ แต่ผมว่าข่าวนี้ไม่น่าจะเป็นความจริง นาทีนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทำงาน หรือว่าว่างกันมากเกินไปรึเปล่า คนที่ทำงานก็ทำงานกันหนัก มาช่วยๆกันทำงานดีกว่ามั้ง แต่ผมไม่รู้เรื่องนะ เพราะไม่ได้อยู่ในพรรค” 

ส่วนการทำงานของนายอุตตม, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรค,นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และอีกหลายคนล้วนทำงานดีทั้งนั้น ก็อยากให้คนดีๆได้ทำงาน และคนพวกนี้ทำงานไม่ใช่เอาอำนาจ งานต้องเป็นงาน ในทุกวิกฤติการณ์ก็เห็นกันอยู่ว่าคนทำงานมีกี่กระทรวง ทั้งต้องทำงานและแบกรับ แต่กลับมามีข่าวแบบนี้ จริงไม่จริงไม่รู้ละ แต่ไม่ควรมีข่าวแบบนี้ คนทำงานจะได้มีกำลังใจทำงาน