ก่อนที่จะเปิดใช้โครงข่าย 5G ช่วงปลายปีนี้ นักวิจัยในสวีเดนต่างทุ่มเทเวลาทดสอบอุปกรณ์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบการสื่อสารไร้สายแห่งอนาคตจะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
หลังคาดการณ์ว่าจะมีการนำโครงข่าย 5G มาเปิดให้บริการในปลายปีนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยลุนด์ สวีเดน และบริสต์โตล ของอังกฤษ ต่างทุ่มเททดสอบความพร้อมของอุปกรณ์กันอย่างเข้มข้น ที่มหาวิทยาลัยลุนด์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสวีเดน โดยใช้ ‘Testbed’ หรืออุปกรณ์ทดสอบ 5G เครื่องแรกของโลก ซึ่งเครื่องนี้สามารถรับส่งข้อมูลเครือข่ายไร้สายได้อย่างมีประสิทธิภาพจนทำลายสถิติโลกไปแล้วถึงสอบครั้ง
5G เป็นโครงข่ายเชื่อมต่อไร้สายรุ่นล่าสุด ที่จะช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์เชื่อมต่อได้เร็วขึ้นและเสถียรมากขึ้น โดยมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 1 กิกะบิต
สำหรับเครื่องทดสอบโครงข่าย 5G ประกอบไปด้วยจอขนาดใกล้เคียงกับโทรทัศน์ และเสาอากาศ 144 ต้น โดยมีโทรศัพท์มือถือผูกติดกับเสาด้วยหนังยาง และมีสายไฟเชื่อมต่อไปยังสถานีฐาน ซึ่งเป็นการจำลองการรับส่งข้อมูลของผู้ใช้งานจำนวนสี่คนไปยังสถานีฐาน นอกจากนั้น ยังมีการทดสอบกับผู้ใช้งานที่อยู่กับที่ เมื่อต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ไปมา
โดยการทดสอบการรับส่งสัญญาณเมื่อปีที่แล้ว ศาสตราจารย์เฟรดริก ทุฟเวสสัน จากมหาวิทยาลัยลุนด์ และเอริก เบนจ์เทสซัน นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยบริสโตล ประสบความสำเร็จในการรับส่งข้อมูลที่เร็วกว่าระบบ 4G ปัจจุบันถึง 20 เท่า ซึ่งทำลายสถิติเดิมที่เครื่องทดสอบนี้เคยทำไว้เกือบสองเท่า
ทีมวิจัยมองว่า สำหรับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว โครงข่าย 5G จะมีประสิทธิภาพหรือไม่อาจต้องขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเครือข่าย แต่สำหรับภาคอุตสาหกรรมแล้ว เทคโนโลยี 5G จะสร้างความแตกต่างครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้เสริมแต่งได้ง่าย โดยใช้เวลาไม่มาก แต่มีความเสถียรสูง ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาการสื่อสารไร้สายให้ก้าวไปอีกขั้น// โดย 5G ยังสามารถหนุนเทคโนโลยี Internet of Things ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตอีกด้วย