คุณผู้ชมอาจจะได้ติดตามข่าวของประเทศจีนในช่วงหลังๆ มานี้บ้าง และคงพอจะเห็นว่าตอนนี้ประเทศจีนหยิบเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการตรวจสอบประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างความเป็นห่วงให้กับนักเคลื่อนไหวในประเทศจีน ว่าในที่สุดแล้วการใช้เทคโนโลยีทันสมัยมาจับตาประชาชนในประเทศจะก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านลบที่ใหญ่หลวงได้
ประเทศจีนได้เข้าสู่ศักราชใหม่หลังจากที่ ที่ประชุมสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งจีน หรือสภานิติบัญญัติ ได้รับรองการปรับแก้รัฐธรรมนูญประเทศ โดยหนึ่งในนั้นคือ การยกเลิกการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีให้ไม่เกินสองสมัย ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ครองตำแหน่งผู้นำได้ต่อไปเรื่อยๆ
นับตั้งแต่สี จิ้น ผิง เข้ารับตำแหน่งในปี 2012 ก็เห็นได้ชัดว่ามีการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัย เข้ามาใช้ในการสอดส่องจับตาประชาชนในประเทศ อย่างเช่น ซอฟต์แวร์รู้จำใบหน้าที่สามารถระบุตัวตนของประชากรได้จากการจับใบหน้า การให้คะแนนประชาชนจากพฤติกรรมบนโลกออนไลน์ การใช้เทคโนโลยีคลาวด์ และเครื่องมือทันสมัยต่างๆ ในการตรวจสอบข้อมูลของประชาชน
เมื่อเดือนที่แล้ว ตำรวจในบางท้องที่เริ่มใช้เทคโนโลยีแว่นกันแดดอัจฉริยะที่สามารถระบุตัวตนของประชาชนได้แม้ในย่านที่มีผู้คนพลุกพล่าน โดยเทคโนโลยีรู้จำใบหน้าจะแจ้งเตือนทันทีที่จับใบหน้าของคนที่รัฐบาลต้องการตัวได้ ซึ่งหลักการทำงานก็คือ แว่นตาจะส่งภาพของคนที่เห็น ไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของคนที่ทางการต้องการตัวว่าตรงกันหรือไม่ หากตรงกันก็จะทำการแจ้งเตือนตามเวลาจริงทันที
นอกจากการตรวจสอบใบหน้าแล้ว เทคโนโลยีที่ทางการจีนใช้ก็ยังตรวจสอบข้อมูลทางชีวภาพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนลูกตาหรือลายนิ้วมือ โดยมีแม้กระทั่งข้อเสนอว่า นอกเหนือจากการเก็บข้อมูลที่ทำอยู่แล้ว ก็ให้เพิ่มการเก็บข้อมูลม่านตาของประชาชนทุกคนเอาไว้ในคลังข้อมูลด้วย
เรื่องที่ถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิงในช่วงหลายวันที่ผ่านมาก็คือระบบการให้คะแนนประชาชนโดยนำข้อมูลมาจากความประพฤติในแง่มุมต่างๆ แล้วนำมาคิดเป็นคะแนน เพื่อนำไปสู่การให้รางวัลหรือการลงโทษ ซึ่งนักเคลื่อนไหวของจีนเรียกนโยบายนี้ว่าเป็นการควบคุมสังคมรูปแบบใหม่ และหากทางการจีนยังใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยมาติดตาม ควบคุม พฤติกรรมของประชาชนอย่างประชิดตัวขนาดนี้ต่อไป ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชน ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่มีความเป็นส่วนตัว และไม่ปลอดภัยเพราะอาจจะถูกทางการใส่ความในข้อหาที่ไม่เป็นธรรมเมื่อไหร่ก็ได้