'ไอติม' หลาน 'อภิสิทธิ์' มาแมนๆไม่ซ้ำรอย 'น้า' สมัครเป็นทหารเกณฑ์แบบเต็มใจ ระบุปลดประจำการพร้อมเล่นการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์
หลัง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ซึ่งเป็นหลานชายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพบก ผลัดที่1 และได้รับเลือกให้เป็นทหารเกณฑ์
นายพริษฐ์ ได้ใช้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาปรัชญาการเมืองเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ยื่นสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพบก ผลัดที่1 โดยผ่านขั้นตอนการตรวจร่างกาย วัดขนาด และรอรับใบ สด.43 หรือใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกิน จากพันโทณัฐพัชร์ ฬาทอง ประธานการตรวจเลือกทหารกองประจำการกรุงเทพฯ คณะ1 จากนั้น เข้ารับหมายนัด และขอสิทธิ์ลดวันรับราชการทหารกองประจำการ จาก 2 ปี เหลือ 6 เดือน ซึ่งจะเข้ารายงานตัวที่มณฑลทหารบกที่ 11 ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
นายพริษฐ์ บอกว่า ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ตนก็ต้องเข้ามาเกณฑ์ทหาร เพราะไม่ได้เรียน รด. ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ตนตัดสินใจเข้าสมัครเป็นทหารมี 2 เหตุผล คือ อยากเลือกช่องทางที่ตรงไปตรงมาและโปร่งใสที่สุด อีกทั้งส่วนตัวเป็นคนรักเสรีนิยม การที่ตนตัดสินใจมาก่อนว่าจะสมัคร ทำให้ตนรู้สึกว่า ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ ไม่ใช่การเสี่ยงโชคแล้วได้ใบที่ตนไม่อยากได้ พร้อมระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วางแผนอนาคตไว้ชัดเจนว่าจะทำอะไรต่อจากนี้
เมื่อถามว่า หากปลดประจำการแล้ว ตรงกับช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ปลดล็อกกิจกรรมทางการเมือง แล้วจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคปชป. เลยหรือไม่นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับว่า ในเวลานั้น พรรคปชป.มีอุดมการณ์เหมือนกับที่ตนอยากให้มีหรือไม่ นั่นก็คือ พรรคปชป.ยุคใหม่ ที่ต้องชัดเจนขึ้นในเรื่องของเสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งหาก คสช.ปลดล็อกอกกิจกรรมทางการเมืองแล้ว พรรคปชป.มีอุดมการณ์ที่ตรงกับตน ตนก็จะสมัครเป็นสมาชิก
ส่วนจะได้เป็นหนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกของพรรค งานการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ตนสนใจ เพราะเป็นงานที่มีเอกลักษณ์ เจ้านายคือประชาชน ความสำเร็จก็คือ ขึ้นอยู่กับว่า ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากน้อยอย่างไร และประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินว่า ตนควรจะอยู่หรือควรจะหยุดทำงานนี้ ทั้งนี้ หากสมาชิกสนับสนุนให้ตนเป็นผู้สมัคร ตนก็พร้อม
เมื่อถามต่อว่า การสมัครเข้ารับราชการทหารครั้งนี้ จะเป็นการลบภาพนายอภิสิทธิ์ ที่เคยถูกกล่าวหาเรื่องการหนีการเกณฑ์ทหารหรือไม่นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าเป็นการลบภาพ เพราะกรณีของนายอภิสิทธิ์ได้ตัดสินไปแล้ว ได้เห็นข้อเท็จจริงกันแล้ว เรื่องการสมัครเข้ารับราชการทหารนั้น ตนเป็นหนึ่งในประชาชนทุกคนที่อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ตนก็ทำหน้าที่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายอภิสิทธิ์