รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2563

นักวิเคราะห์ Talking Thailand มองท่าที “ประยุทธ์–ดอน–พุทธิพงษ์” ไม่เน้นรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการลงทุน ยอมเปิดศึก “เฟซบุ๊ก” อ้างอธิปไตย แต่ละเลยสิทธิมนุษยชน เที่ยวใช้คำสั่งศาลบังคับคนอื่นทำตามกฎหมายไทย เพียงแค่สกัด “อ.ปวิน – เพจรอยัลมาร์เก็ตเพลส” ชนิดไม่กลัวถูกฟ้อง!

แต่...หวั่นซ้ำรอยค่าโง่ ที่อาจฉาวโฉ่ทั่วโลก

กรณีเฟซบุ๊กมีแผนฟ้องร้องรัฐบาลไทย จากกรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ให้บล็อกเพจหรือบัญชีเฟซบุ๊กของผู้ที่โพสต์เนื้อหาหมิ่นเหม่พาดพิงสถาบัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เห็นว่า ขอให้มอง 2 ด้าน ทุกคนเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศ กฎหมายของใครก็ของใคร ส่วนตัวก็ไม่เคยไปก้าวล่วงต่างประเทศ ดังนั้น ใครจะทำอะไร ขอให้ระมัดระวัง ใครทำอะไรไว้ ต้องรับผิดชอบด้วย

เพจดังกล่าว ทุกคนก็รู้อยู่ว่าใครขับเคลื่อน นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ทุกคนก็รู้ว่า คนเหล่านี้เป็นอย่างไร วันนี้อยู่ที่ไหน มีส่วนรับผิดชอบ ความเสียหายต่อประเทศหรือไม่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย บุคลลเหล่านี้ก็ไม่ได้รับผลกระทบ แต่คนที่เดือดร้อนที่สุด คือคนในประเทศ

ยืนยันทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมายไทย ไม่ได้ใช้อำนาจที่เรียกว่าเผด็จการไปปิด แต่ดำเนินการตามคำสั่งศาลทุกคดี ดังนั้นในทางกฏหมาย สามารถยืนยันได้ว่าผิด การปิดเพจเป็นการขอความร่วมมือ โดยคำสั่งศาล หากมีฟ้องร้องก็ต้องสู้ตามกฎหมาย แม้จะมีเรื่องสิทธิเสรีภาพ ก็ต้องไม่ผิดกฎหมายไทยด้วย เหมือนที่ไทยก็ไม่ทำผิดกฏหมายต่างประเทศเช่นกัน

ทั้งนี้ Facebook ออกแถลงการณ์ชี้แจงกระแสข่าวยื่นฟ้องรัฐบาลไทย กรณีสั่งบล็อกการเข้าถึงเพจที่มีเนื้อหาผิดกฏหมาย ระบุว่าการดำเนินงานของ Facebook ต้องการปกป้อง และรักษาสิทธิของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งการแทรกแซงนี้ บั่นทอนการลงทุนในไทย และการดำเนินงานของสำนักงานในไทยด้วย

"หลังจากที่ได้พิจารณาอย่างระมัดระวัง และถี่ถ้วนแล้ว ได้ตัดสินใจที่จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่รัฐบาลไทยระบุว่าผิดกฎหมาย แต่ข้อเรียกร้องจากรัฐบาลไทย เช่นครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่รุนแรง ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล ส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงออก และการดำเนินงานของ Facebook มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งสิทธิของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคน และขณะนี้เรากำลังเตรียมความพร้อมเพื่อโต้แย้งในข้อกฎหมายต่อข้อเรียกร้องครั้งนี้

การแทรกแซงที่เกินขอบเขตของรัฐบาลเช่นกรณีนี้ ถือเป็นการบั่นทอนความสามารถของ Facebook ในการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดถึงการดำเนินงานของสำนักงานในประเทศไทย การคุ้มครองดูแลพนักงานของบริษัทฯ และการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนโดยตรงต่อธุรกิจต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์ม Facebook"

พร้อมกันนี้ ได้ตอบข้อเรียกร้องของรัฐบาล ในประเด็นด้านเสรีภาพในการแสดงออกและกฎระเบียบที่ว่าด้วยการแสดงออกถือเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนมากที่สุดและมีความสำคัญสำหรับเราในฐานะที่เป็นองค์กร ที่ต้องอาศัยการวางสมดุลที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่งระหว่างการช่วยให้ผู้คนสามารถแสดงออกถึงความคิดอย่างเสรีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่ขัดต่อกฎหมายท้องถิ่นและบรรทัดฐานทางวัฒนธรรม เมื่อเราได้รับคำขอจากรัฐบาลหรือหน่วยงานทางกฎหมายให้จำกัดการเข้าถึงของเนื้อหา เราได้ทบทวนว่าเนื้อหานั้นขัดต่อมาตรฐานชุมชนของเราหรือไม่ หากพบว่าเนื้อหานั้นละเมิดมาตรฐานชุมชน เราจะลบเนื้อหาทั้งหมดออกจากแพลตฟอร์ม

ในกรณีที่เนื้อหานั้นไม่ได้ละเมิดมาตรฐานชุมชน เราจะนำเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบทางกฎหมาย โดยกระบวนการทั้งสองขั้นตอนนี้เป็นไปเพื่อให้มั่นใจว่าคำขอนั้นถูกต้องตามกฎหมาย และเนื้อหานั้นมีการละเมิดกฎหมายท้องถิ่นจริง และเราอาจจำกัดการเข้าถึงเนื้อหานั้นๆ ในประเทศที่ระบุว่าขัดต่อกฎหมาย โดยใน ประเทศไทย คำขอเหล่านั้นได้ถูกดำเนินการในรูปแบบคำสั่งศาลที่มีการยื่นคำร้องจากกระทรวงดีอีเอส เราดำเนินการอย่างโปร่งใสในการแจ้งถึงจำนวนเนื้อหาที่เราจำกัดการเข้าถึง โดยอิงจากกฎหมายท้องถิ่นในประเทศ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ที่รายงานเพื่อความโปร่งใส ซึ่งได้รับการปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ทุกๆ 6 เดือน

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง กำลังพิจารณาข้อกฎหมายและดูที่มาที่ไปของเรื่องนี้ แต่ถ้าผู้โพสต์ทำผิดกฎหมายรัฐบาล ก็อยู่ในฐานะที่ใช้กฎหมายของไทยเข้ามาควบคุมให้เกิดความถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เฟซบุ๊กอ้างว่าถือกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลัก นายดอน กล่าวว่า ตรงนี้ไม่เกี่ยว กรณีที่เกิดขึ้น เฟซบุ๊กดำเนินการในไทย เราจึงมีวิธีการ สิทธิ อำนาจ เข้าไปพิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นในแผ่นดินไทยไหม สิ่งที่พูดคือแง่หลักการ แต่ที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนที่ละเมิดกฎหมายไทยถือว่าไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาเมื่อไหร่ที่เกิดความไม่ถูกต้องขึ้นในประเทศไทย เราขอความร่วมมือเฟซบุ๊กประจำประเทศไทยจะได้รับความร่วมมือมาตลอด

เมื่อถามว่า เฟซบุ๊กจะฟ้องรัฐบาลไทยอาจบานปลายจนนำไปสู่การพิจารณาถอนการลงทุนในไทย นายดอนกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ ต้องรอดูรายละเอียดก่อน เมื่อถามย้ำว่า ทางเฟซบุ๊กมองว่ารัฐบาลไทย ทำผิดหลักสากล เรื่องสิทธิเสรีภาพการแสดงออก นายดอนกล่าวว่า “ไม่ฟัง เขาพูดอย่างนั้นได้อย่างไร”