บรรดาบริษัทญี่ปุ่นเริ่มสนับสนุนให้พนักงานนอนพักระหว่างวันลดภาวะเครียด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่งผลให้คาเฟ่สำหรับนอนกลางวันได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างยิ่งในปัจจุบัน
ในช่วงของเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มเข้าช่วงหน้าร้อนอย่างเป็นทางการ และเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในหน้าร้อน ที่อากาศช่วงกลางคืนจะอบอ้าวอย่างมาก ทำให้คนจำนวนมากนอนหลับยาก ส่งผลให้พวกเขาใช้ชีวิตในระหว่างวันได้ไม่ดีช่วงอื่น ๆ ของปี ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตและการทำงาน หลายบริษัทจึงเริ่มสนับสนุนให้พนักงานมีช่วงเวลาหลบไปพัก เพื่อนอนหลับระหว่างวัน
มาตรการดังกล่าวทำให้คาเฟ่สำหรับการนอนหลับได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น ซุยมินคาเฟ่ (Suimin Cafe) คาเฟ่ที่บริหารโดยเนสเล่ท์ เจแปน ย่านสถานีรถไฟเจอาร์โออิมาจิ กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นที่ที่พนักงานบริษัทย่านใจกลางเมืองแวะเวียนเข้ามาพักระหว่างวันเป็นประจำ จนบางครั้งต้องรอคิวยาวเพื่อเข้าใช้บริการ
เนสเล่ท์ คือ ผู้ขายกาแฟรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทจับจุดแข็งของตัวเอง ผนวกรวมเข้ากับปัญหาของพนักงานบริษัทในยุคปัจจุบัน ที่ประสบทั้งภาวะเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ซุยมินคาเฟ่ จึงนำเสนอการนอนหลับในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีเตียงหลับสบาย หรืออาร์มแชร์ในห้องพักในเปิดไฟสลัว สร้างความเป็นส่วนตัวด้วยการกั้นห้องด้วยผ้าม่าน
ทางร้านมีโปรแกรมให้ลูกค้าเลือกตามความเหมาะสมต่อความสะดวก เช่น โปรแกรม 750 เยน สำหรับกาแฟ 1 แก้วและการงีบหลับ 30 นาที หรือคนที่มีเวลามากขึ้นและต้องการหลับลึก ก็มีช่วงราคาตั้งแต่ 1,500-4,950 เยน สำหรับ 1-3 ชั่วโมง โดยก่อนหลับ พวกเขาจะได้รับกาแฟไร้คาเฟอีนหนึ่งแก้ว และหลังจากตื่นแล้ว จะได้รับกาแฟปกติอีกหนึ่งแก้ว เพื่อความสดชื่น
อัตสึชิ มูราตะ พนักงานเนสเล่ท์ เจแปน บอกว่าทางร้านเสิร์ฟกาแฟสายพันธุ์ที่หลากหลายและมีระดับคาเฟอีนให้เลือก เพื่อปรับให้เข้ากับนิสัยการนอนหลับของลูกค้าแต่ละคน โดยซุยมินคาเฟ่ถือเป็นคาเฟ่งีบหลับแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2017 โดยมีทั้งหมด 3 สาขา สถานีเจอาร์โออิมาจิ กินซา และฮาราจุกุ
อย่างไรก็ตาม มีธุรกิจที่ตอบสนองนโยบายงีบหลับระหว่างวันอีกหลายแห่ง นำเสนอจุดเด่นที่แตกต่างกัน อย่าง บอดี้ เวิร์ก (Body Work) เชนร้านนวดชื่อดัง ก็เปิดบริการนวดเพื่อการนอนหลับ โดยลูกค้าสามารถงีบหลับระหว่างวันไปพร้อมกับการนวดได้
ขณะที่ บางบริษัทเลือกที่จะสร้างห้องนอนพักไว้ในออฟฟิศ Gaiax สตาร์ตอัปพัฒนาแอปพลิเคชัน ได้เริ่มสร้างเลาจน์สำหรับงีบหลับในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นห้องที่มีเตียงนอนเป็นสัดเป็นส่วน โดย โทโมฮิโระ คิมูระ ฝ่ายบริหารของแอปฯ ให้เหตุผลว่าผู้บริหารอยากโปรโมตไอเดียที่ว่า การงีบระหว่างวันทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานดีขึ้น
ภาครัฐบาลเองก็เล็งเห็นความสำคัญของการงีบหลับเหมือนกัน เช่น เทศบาลเมืองฟุกุโอกะ ที่ร่วมมือกับบริษัทผลิตเตียง 'นิชิกาวะ' เปิดตัวแคมเปญสนับสนุนให้พนักงานบริษัทท้องถิ่นมีช่วงเวลางีบพักระหว่างวัน โดยทางนิชิกาวะจะสนับสนุนผ้าห่มที่มีฮู้ดแนบมาให้กับพนักงาน ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้รับการตอบรับดีมากหลังจากเปิดตัว มีหลายบริษัทเริ่มให้พนักงานได้มีช่วงเวลางีบหลับ 15-20 นาทีต่อวัน ขณะที่ ผ้าห่มก็ถูกแจกจ่ายไปมากกว่า 1,000 ผืนต่อวัน
โซอิจิโระ ทาคาชิมะ นายกเทศมนตรีเมืองฟุกุโอกะ เชื่อว่าการงีบหลับระหว่างวันคือการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ และจะนำไปสู่สังคมที่มีความยั่งยืน พร้อมกล่าวด้วยว่าเขาอยากจะลบความคิดที่ว่า การงีบหลับระหว่างคือการอู้งานให้หมดไป
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง และพนักงานบริษัทต้องทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อตอบสนองต่อค่านิยมนั้น สาเหตุดังกล่าว ทำให้ญี่ปุ่นมีอัตรา 'คาโรชิ' หรือ ภาวะการทำงานหนักจนเสียชีวิตสูงมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นโยบายป้องกันมากมายจึงถูกผลักดันออกมาเพื่อช่วยเหลือคนทำงาน นอกจากนโยบายงีบหลับแล้ว ยังรวมไปถึงนโยบายการทำงานครึ่งวันในวันศุกร์ หรือการห้ามทำโอทีในบางวันด้วย