ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - รถไฟฟ้า Ford วิ่งได้ 600 กม. ต่อ 1 ชาร์จ - Short Clip
World Trend - แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนใหม่รองรับ 2 ซิม - Short Clip
World Trend - โซนี่เปิดตัวกล้องจิ๋ว RX0 II พร้อมจอพับได้ - Short Clip
World Trend - Oppo Reno มาพร้อมกล้องซูม 10 เท่า - Short Clip
World Trend - Sega เปิดตัวเกมโอลิมปิก รับโตเกียว 2020 - Short Clip
World Trend - แอปเปิลเตรียมเข้าซื้อแร่ 'โคบอลต์' สำหรับผลิตแบตเตอรี่โดยตรงจากเหมือง - Short Clip
World Trend - Coca-Cola เล็งเปิดตัวเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในญี่ปุ่น - Short Clip
World Trend - แอมะซอนเตรียมใช้เครื่องจักรแพ็กสินค้า - Short Clip
World Trend - Raspberry Pi รุ่นใหม่อาจปลุกกระแส PC อีกครั้ง - Short Clip
World Trend - Google Maps AR เริ่มใช้งานได้แล้ว - Short Clip
World Trend - 'เทสลา' เอาใจคนเลี้ยงสุนัขด้วย 'Dog Mode' - Short Clip
World Trend - Black Shark 2 สมาร์ตโฟนเล่นเกมสเปกแรงจากเสียวหมี่ - Short Clip
World Trend - ในอีก 2 ปี 83% ของงานองค์กรจะอยู่ใน 'คลาวด์' - Short Clip
World Trend - หัวเว่ยมั่นใจ แซงซัมซุงขึ้นที่ 1 ปีหน้า - Short Clip
World Trend - OnePlus เผยภาพถ่ายจากสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ - Short Clip
World Trend - Nintendo Switch รุ่นใหม่ยังไม่มาในเร็วๆ นี้ - Short Clip
World Trend - POCOPHONE F1 สมาร์ตโฟนทรงพลังจากเสียวหมี่ - Short Clip
World Trend - โฆษณาใหม่ iPhone ย้ำจุดขายเรื่องความเป็นส่วนตัว - Short Clip
World Trend - หัวเว่ยซุ่มผลิตสมาร์ตโฟนพับได้ - Short Clip
World Trend - ญี่ปุ่นห้ามคนเมาใช้โดรน - Short Clip
World Trend - แอปเปิลพักโครงการแว่นตาอัจฉริยะ - Short Clip
Jul 15, 2019 05:49

จีนคิดค้นระบบจดจำใบหน้าสุนัข

ตอนนี้ระบบจดจำใบหน้าเริ่มถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสแกนใบหน้าเพื่อตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน หรือการสแกนใบหน้าเพื่อชำระเงิน ซึ่งขณะนี้เทคโนโลยีดังกล่าวถูกต่อยอดนำมาใช้จดจำใบหน้าของสุนัขได้ด้วย โดย Megvii บริษัทสตาร์ตอัปของจีนที่พัฒนาระบบจดจำใบหน้าให้กับหน่วยงานของรัฐบาลจีน ได้พัฒนาเทคโนโลยีเอไอที่สามารถแยกแยะและจดจำใบหน้าสุนัข ด้วยการสแกนลายเส้นที่อยู่บนจมูก เนื่องจากจมูกของสุนัขแต่ละตัวมีลายเส้นที่แตกต่างกัน เ��มือนกับลายนิ้วมือของมนุษย์ที่ไม่มีใครมีลายนิ้วมือที่ซ้ำกัน จึงสามารถนำมาใช้ระบุตัวตนของสุนัขได้  

เจ้าของสุนัขสามารถใช้แอปพลิเคชันของ Megvii เพื่อลงทะเบียนและสแกนใบหน้าของสุนัขตัวเอง ซึ่งแอปพลิเคชันจะขอให้เจ้าของสแกนรูปภาพบริเวณจมูกของสุนัขในหลาย ๆ มุม เพื่อความแม่นยำในการแยกแยะ ซึ่งขณะนี้มีเจ้าของสุนัขลงทะเบียนข้อมูลแล้วกว่า 15,000 ราย ซึ่ง Megvii รายงานว่าระบบมีความแม่นยำในการแยกแยะสุนัขได้ถูกต้องถึง 95 เปอร์เซ็นต์

ระบบจดจำใบหน้าสุนัขสามารถช่วยเจ้าของตามหาสุนัขที่หายตัวไป รวมทั้งยังช่วยเจ้าหน้าที่ตามหาเจ้าของสุนัขที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น เช่น การปล่อยสุนัขออกนอกบ้านโดยไม่มีคนดูแลหรือใส่สายจูง หรือเจ้าของสุนัขที่ไม่เก็บกวาดอุจจาระของสุนัขในที่สาธารณะ ซึ่งจะช่วยกวดขันวินัยการเลี้ยงสุนัขของผู้คนให้ดีขึ้น ที่ผ่านมา นักอนุรักษ์สัตว์ป่าได้ใช้เทคโนโลยีที่คล้าย ๆ กัน ในการจดจำใบหน้าของสัตว์ป่าที่กำลังถูกเฝ้าติดตามพฤติกรรม แทนการติดแท็กลงบนร่างกายของตัวสัตว์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและอันตรายมากกว่า


แอปเปิลพักโครงการแว่นตาอัจฉริยะ

บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งพยายามพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารและแสดงผลบนเลนส์แว่นได้ ซึ่ง Apple เป็นบริษัทหนึ่งที่เคยมีรายงานว่ากำลังพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง ที่ใช้เทคโนโลยี AR หรือภาพเสมือนจริงในการแสดงผล แต่ล่าสุด เว็บไซต์ DigiTimes รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่า Apple ได้สั่งระงับโครงการพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะนี้ไปแล้วเป็นการชั่วคราว จากเดิมที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่าแอปเปิลเตรียมเปิดตัวแว่นดังกล่าวในปี 2020  

นอกเหนือจากการรายงานของ DigiTimes แล้ว สิ่งที่ทำให้น่าเชื่อถือว่าโครงการแว่นตาอัจฉริยะของ Apple ถูกระงับชั่วคราวจริง คือการที่ทีมงานหลักในโครงการนี้หลายคนทยอยลาออกจาก Apple ส่วนทีมงานที่เหลือถูกย้ายไปประจำอยู่ในแผนกอื่น ๆ แทนหมดแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ Apple คาดหวังว่าแว่นตาอัจฉริยะน่าจะเป็นอุปกรณ์เสริมอีกชิ้นที่เชื่อมต่อกับ iPhone คล้าย Apple Watch ซึ่งแว่นตาจะสามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ จาก iPhone ผ่านเลนส์ของแว่นตาได้ และน่าจะเป็นสินค้าใหม่ที่ขายดี โดย Apple พยายามที่จะออกแบบแว่นตาตัวนี้ให้มีลักษณะคล้ายกับแว่นทั่วไปที่ผู้คนสวมใส่ตามปกติให้มากที่สุด เพื่อที่จะขายได้ในวงกว้าง แต่ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นหลายอย่าง ทำให้ Apple ตัดสินใจระงับโครงการนี้ไว้ชั่วคราวก่อน และอาจจะนำโครงการนี้มาปัดฝุ่นใหม่อีกรอบในอนาคต เมื่อมีความพร้อมมากกว่านี้


Sigma FP กล้องฟูลเฟรมเล็กที่สุดในโลก

Sigma บริษัทผลิตกล้องและเลนส์ถ่ายรูปจากญี่ปุ่น เปิดตัวกล้องถ่ายภาพมิร์เรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นใหม่ล่าสุด Sigma FP ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาที่สุดในโลก โดยตัวกล้องมีขนาดกะทัดรัด ใหญ่เท่าฝ่ามือและมีน้ำหนักเพียง 370 กรัม ซึ่งจัดได้ว่ามีขนาดเทียบเท่ากล้องคอมแพกต์ทั่วไป แตกต่างจากกล้องฟูลเฟรมแบรนด์อื่นๆ ที่มักมีขนาดและน้ำหนักใหญ่กว่ากล้องคอมแพกต์ถึง 1 เท่า เนื่องจากเซนเซอร์กล้องฟูลเฟลมมีขนาดที่ใหญ่กว่า จึงต้องมีบอดี้กล้องที่ใหญ่ขึ้นมาด้วย 

Sigma FP ถ่ายภาพได้ความละเอียด 24.6 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งานเลนส์ L Mount/ ระบบออโตโฟกัสเป็นแบบ contrast-detection ที่ Sigma เคลมว่าสามารถใช้ได้ที่แสงต่ำสุด ติดลบถึง 5 สต็อป ส่วนชัตเตอร์เป็นอิเล็กทรอนิกส์ล้วน สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดระดับ Ultra HD บอดี้กล้องมีซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่นไม่ให้เข้ามาในตัวกล้อง 

กล้องฟูลเฟรมมีราคาที่แพงกว่ากล้องทั่วไป จึงเป็นที่นิยมใช้ในหมู่ช่างภาพระดับมืออาชีพ ซึ่งทาง Sigma ยังไม่ได้เปิดเผยราคาของกล้อง Sigma FP ออกมาว่าจะมีราคาเท่าไร แต่เปิดเผยว่ากล้องมีกำหนดจะเริ่มวางขายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog