เกาหลีเดินหน้าสนับสนุนวงการเกมรอบด้าน
แม้ว่าองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศให้พฤติกรรมติดการเล่นเกมเป็นอาการป่วยทางจิตชนิดหนึ่ง และกำลังหามาตรการป้องกัน แต่ว่ารัฐบาลเกาหลีใต้ยังคงเดินหน้าผลักดันวงการเกมให้เติบโตต่อเนื่อง โดยนาย พักยางอู รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ได้แถลงข่าวเนื่องในวาระเข้ารับตำแหน่งครบ 100 วัน ประกาศจุดยืนว่าจะยังคงสนับสนุนอุตสาหกรรมเกมสำหรับตลาดในประเทศต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมสำหรับคนทั่วไป การแข่งขันอีสปอร์ต และการลงทุนในบริษัทผลิตเกม รวมทั้งเพิ่มผลประโยชน์ทางภาษี
นายพัคแสดงความคิดเห็นว่า แม้จะยังมีบางคนที่มองว่าเกมเป็นสิ่งอันตราย แต่เกมได้กลายมาเป็นวัฒนธรรมและกิจกรรมพักผ่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เกมยังเป็นสินค้าส่งออกที่เติบโตอย่างรวดเร็วของเกาหลีใต้ด้วย ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่เห็นด้วยกับการประกาศของ WHO ที่ระบุว่าการติดเกมเป็นอาการป่วยชนิดหนึ่ง และกำลังเตรียมมาตรการรับมือก่อนที่คำประกาศของ WHO จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2022
มติของ WHO ถูกคัดค้านจากบริษัทผู้ผลิตเกมทั้งในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่เรียกร้องขอให้มีการศึกษาอาการติดเกมให้ละเอียดกว่านี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มีเกมเป็นต้นเหตุ แต่อาจเกิดจากปัญหาด้านสภาพแวดล้อมและความเครียดที่มีสาเหตุมาจากที่อื่น ซึ่งการตีตราว่าการติดเกมเป็นอาการป่วยทางจิต จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และสร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ต่ออุตสาหกรรมเกม
รถยนต์อัตโนมัติจะแพงขึ้นหลายเท่า เพราะทำกำไรได้
อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา แสดงความคิดเห็นว่าในอนาคต รถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติจะมีราคาแพงขึ้นอีกหลายเท่า เนื่องจากผู้ที่เป็นเจ้าของสามารถให้รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติออกไปหารายได้พิเศษ ในตอนที่ตัวเองไม่ได้ใช้รถ ด้วยการออกไปรับส่งผู้โดยสาร โดยที่เจ้าของไม่ต้องขับรถด้วยตัวเอง แต่ให้ระบบขับขี่อัตโนมัติทำทุกอย่างแทนทั้งหมด ซึ่งมัสก์เรียกรถยนต์ที่ให้บริการแบบนี้ว่า โรโบแท็กซี่ พร้อมประเมินว่า โรโบแท็กซี่ 1 คัน สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 30,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 920,000 บาท และรถหนึ่งคันจะมีอายุใช้งานเฉลี่ย 11 ปี เท่ากับว่ารถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติหนึ่งคันจะสามารถสร้างรายได้ทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท ตลอดอายุการใช้งาน
นอกจากนี้ มัสก์ยังอธิบายว่าเมื่อระบบขับขี่รถยนต์อัตโนมัติมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น คนทั่วไปจะมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อรถยนต์ของตัวเองน้อยลง และจะหันมาใช้บริการของโรโบแท็กซี่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ราคาของรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติแพงขึ้นอีกหลายเท่า ขณะที่ราคาของรถยนต์ทั่วไปที่ไม่มีระบบขับขี่อัตโนมัติจะไม่สูงขึ้นมาก
ขณะนี้เทสลากำลังพัฒนาระบบ Full Self Driving หรือ FSD ที่รถยนต์จะสามารถขับขี่ได้ด้วยตัวเองทั้งหมด นับตั้งแต่ตอนสตาร์ตรถ ไปจนถึงตอนจอดรถเมื่อถึงที่หมาย เพื่อให้เข้าใกล้การขับขี่อัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบในอนาคต
โฟล์กสวาเกนเผยโฉมรถตู้ไฟฟ้าใหม่
โฟล์กสวาเกน ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนี ได้เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ซึ่งนำเอารถตู้ type 2 ที่ผลิตมาตั้งแต่ปี 1962 และได้รับความนิยมอย่างสูง มาดัดแปลงเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ในชื่อรุ่น Type 20 และเพิ่มเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไปอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจอภาพเสมือนจริง การสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อกประตู และระบบสั่งการด้วยเสียง โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์รถตู้คลาสสิกแบบดั้งเดิมที่ผู้คนชื่นชอบเอาไว้
รถตู้ไฟฟ้าโฟล์กสวาเกน Type 20 ยังใช้การออกแบบที่เรียกว่า Generative Design ที่ช่วยเพิ่มความแแข็งแกร่งให้กับตัวรถ แต่ก็ทำให้รถมีน้ำหนักเบาขึ้น เช่นการดีไซน์พวงมาลัย ก้านกระจก และลวดลายล้อแม็ก ที่คล้ายกับกิ่งก้านของต้นไม้ ซึ่งแม้จะดูแปลกตา แต่มีความทนทานมากขึ้น เครื่องยนต์ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 10 กิโลวัตต์ แต่โฟล์คสวาเกนยังไม่ได้เปิดเผยว่าสามารถขับขี่ได้ระยะทางกี่กิโลเมตร แต่คาดว่าคงไม่สามารถทำระยะทางได้ไกลมาก เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาดเล็กกว่ารถไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ที่วางขายในท้องตลาดขณะนี้
นอกจาก รถตู้ไฟฟ้า Type 20 แล้ว โฟล์คสวาเกนกำลังพัฒนารถตู้ไฟฟ้าอีกรุ่นหนึ่งที่มีชื่อว่า I.D Buzz ด้วย และคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในปี 2022