วันที่ 22 พ.ย. 2565 ที่พรรคชาติไทยพัฒนา วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และทีมงานที่ปรึกษา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อจัดทำนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง โดยเป็นการระดมความคิดเห็นจากสมาชิกทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ มาใช้จัดทำนโยบายในด้านต่าง ๆ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ก่อนนำเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า
วราวุธ กล่าวว่า การระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ เป็นมิติใหม่ของพรรค ที่ได้เชิญกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. มาให้ข้อเสนอแนะ ซึ่งแต่ละคนเป็นผู้ที่สัมผัสได้รับฟังปัญหาของประชาชนโดยตรงในพื้นที่ และยังมีนักวิชาการ ผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆ มาแลกเปลี่ยนแนวความคิด เพื่อรวบรวมจัดทำร่างนโยบายของพรรค ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป ตามคำขวัญใหม่ของพรรคชาติไทยพัฒนา “รับฟัง ทำจริง”
วราวุธ กล่าวว่า การระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ ได้แบ่งหัวข้อให้ สมาชิกได้แลกเปลี่ยนแนวคิด 7 หัวข้อ ประกอบด้วย เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม เกษตร และอื่นๆ ซึ่งทุกประเด็นมีการออกความเห็นที่ค่อนข้างหลากหลาย
วราวุธ กล่าวว่า ส่วนการประชุม ส.ส. พรรคนั้น เป็นการเตรียมความพร้อมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 23-25 พ.ย.นี้ และแจ้งความคืบหน้าการทำงานด้านต่าง ๆ ของพรรค และการนำนโยบายของแต่ละกระทรวงมาเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งต่อไป
วราวุธ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง คาดว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะเข้าพิจารณาสภาในสัปดาห์ต่อไป เนื่องจากมีกฎหมายสำคัญที่ต้องพิจารณาในสัปดาห์นี้ 2-3 ฉบับ และในการประชุม ครม. วันเดียวกันนี้ ไม่มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว
เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมในการลงพื้นที่ วราวุธ กล่าวว่า จากนี้จะต้องลงพื้นที่รับฟัง และทำงานใกล้ชิดประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำงานร่วมกับประชาชนมาโดยตลอด ยืนยันว่าพรรคไม่ได้เร่งทำช่วงใกล้เลือกตั้ง เพราะนั่นไม่ใช่นิสัยของพรรคชาติไทยพัฒนา
วราวุธ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมืองเริ่มมีนโยบาย เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หรือ นโยบายสีเขียวมากขึ้นนั้น ตนเองก็ดีใจที่เรื่องที่พรรคนำเสนอมา 3 ปี 8 เดือน มาต่อยอด และเห็นด้วยที่หลายพรรคมาสนใจในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาในฐานะ รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปรับเปลี่ยนการทำงานของกระทรวง จนสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชนได้ตรงจุด และทำให้ประชาชนหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น