วันที่ 2 เม.ย.66 วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ตอนนี้ทุกเขตเตรียมพร้อมทั้งหมด เป็นไปตามแนวทางที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้วางไว้ ตนเองจะเดินทางไปยังจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อให้กำลังใจผู้สมัครทั้ง 5 เขต ทุกอย่างพร้อมหมด 100%

วราวุธ กล่าวว่า โดยได้วางกำหนดการของวันที่ 3 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุพรรณบุรี ตนเองพร้อมด้วย ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นำทีม ผู้สมัครส.ส.แบบเขต ของจังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่ เขต1 สรชัด สุจิตต์ เขต2 ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เขต3 นพดล มาตรศรี เขต4 เสมอกัน เที่ยงธรรม เขต5 ประภัตร โพธสุธน

วราวุธ กล่าวว่า ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 3 เมษายน นั้น พวกเราพรรคชาติไทยพัฒนา จะพร้อมกันสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี โดยในเวลา 05.00 นัดพร้อมกันที่พระบรมราชานุสรณ์ ดอนเจดีย์ ทำพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เวลา 05.45 ออกเดินทางไปยัง วัดป่าเลไลยก์ เวลา 06.19 กราบนมัสการหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ เวลา 06.39 กราบขอพรเจ้าพ่อหลักเมือง และ 07.09 กราบขอพร อนุสาวรีย์นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และเวลา 07.19 เดินทางไปยังสถานที่รับสมัคร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตสุพรรณบุรี

วราวุธ กล่าวว่า ส่วนการรับสมัครส.ส.เขตในกทม. ได้วางกำหนดการว่า ในเวลา 07.30 น. นิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย สันติ กีรนันท์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะเป็นคนนำผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค ไปที่อาคารกีฬาเวสน์ สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง

วราวุธ กล่าวว่า ส่วนวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 4 เมษายน 2566 นั้น ตนพร้อมด้วย ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา จะนำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ไปยัง ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยนัดรวมตัวกันที่พรรคชาติไทยพัฒนา เวลา 05.00 น. เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ก่อนออกเดินทางพร้อมกันจากพรรคชาติไทยพัฒนาไปยังสถานที่รับสมัคร

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าบัตรเลือกตั้งอาจจะทำให้ประชาชนสับสน วราวุธ กล่าวว่า คิดว่าทาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. )ต้องพยายามทำให้ประชาชนไม่สับสน ไม่ว่าจะเป็นการมีชื่อ มีเลข มีสัญลักษณ์ของพรรคการเมือง เพราะการมีบัตรสองใบคิดว่าน่าจะสับสนพอแล้ว การที่เบอร์ไม่ตรงกันก็อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ดังนั้นอะไรที่พอจะช่วยให้ประชาชนลดความสับสนลงได้ คิดว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทางพรรคจะต้องกำชับผู้สมัครไปชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน หากผู้สมัครคนไหนได้เบอร์ตรงกับเบอร์พรรคก็ถือว่าโชคดี แต่เกิดไปตรงกับเบอร์พรรคอื่นก็จะลำบากขึ้นไปอีก ส่วนจะใช้กลเม็ดใดไปแนะนำชาวบ้านนั้นคงต้องเห็นบัตรเลือกตั้งและให้รู้ก่อนว่าเราได้เบอร์อะไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาป่วนเวทีหาเสียง จะนำมาวิเคราะห์เพื่อเป็นบทเรียนในการเปิดเวทีหาเสียงอย่างไรหรือไม่ วราวุธ กล่าวว่า คงต้องขอความเห็นใจ และทำความเข้าใจกับประชาชนว่าแน่นอน เรามีทั้งคนที่เรารัก มีพรรคที่เราชอบ แต่ในช่วงเวลาของการเลือกตั้ง เป็นช่วงเวลาที่ทุกพรรคการเมืองมีสิทธิที่จะหาเสียง ชอบหรือไม่ชอบอย่างไรวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 จะเป็นวันตัดสิน ขอให้ทุกคนไปใช้สิทธิกันในวันนั้น 

"ในการเตรียมการปราศรัย อย่าเพิ่งไปคิดเยอะถึงสิ่งที่ไม่ดีที่อาจเกิดขึ้น เรามีเจตนาดี ทุกพรรคการเมืองมีเจตนาดี ในการที่จะมาเอาชนะหัวใจของพี่น้องประชาชน ดังนั้นหากเกิดเหตุขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือมีการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมในเบื้องต้นก่อน" วราวุธ กล่าว