ไม่พบผลการค้นหา
แฮชแท็ก #เหมืองทองอัครา ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หลังมีการเผยแพร่เอกสารตั้งงบประมาณปี 2564 สู้คดีกว่า 111 ล้านบาท ด้าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถาม 'พล.อ.ประยุทธ์' เคยประกาศว่าจะรับผิดชอบเอง แล้วมาใช้ภาษีของประชาชนทำไม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 ส.ค. 2563) แฮชแทก #เหมืองทองอัครา กลับมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์อีกครั้ง โดยเมื่อเวลา 10.33 น. มีผู้ทวีตข้อความผ่านแฮชแท็กกว่า 1.25 แสนข้อความ ภายหลังจากมีการเผยแพร่รายงานการวิเคราะห์งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งในเอกสารมีรายละเอียดระบุถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับบริษัท คิงส์เกต จากประเทศออสเตรเลีย เป็นจำนวนเงิน 111,115,700 บาท

ด้าน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความแสดงความเห็นว่า จริงๆ สามารถใช้กฎหมายปกติจัดการได้ แต่ดันบ้าอำนาจใช้ ม.44 จนต้องเดือดร้อนภาษีประชาชน ปี 2562 ใช้งบเพื่อการระงับข้อพิพาทไป 60 ล้านบาท ปี 2563 = 218 ล้านบาท ล่าสุดปี 2564 ตั้งงบ 111 ล้านบาท

วิโรจน์ ทวีตข้อความอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เคยประกาศว่า จะรับผิดชอบต่อการใช้ ม.44 ปิด เหมืองทองอัคราเอง แล้วมาใช้ภาษีของประชาชนในการระงับข้อพิพาททำไม ไม่รู้ว่าจะต้องเสียอีกเท่าไหร่


คดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2559 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบการอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 72/2559 ระงับการอนุญาตให้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่จังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรีในพื้นที่ดังกล่าว ก่อนสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2571  พร้อมประกาศว่า "ผมรับผิดชอบเอง" ทำให้บริษัท คิงส์เกตฯ ได้ใช้สิทธิทาฟตา TAFTA: ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย นำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการโลกตัดสิน ซึ่งในขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่า ประเทศไทยอาจต้องชดใช้ค่าเสียหายมูลค่าถึง 3 หมื่นล้านบาท


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :