ฉิน อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ จัดงานแถลงข่าวครั้งแรกของเขา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนในวันนี้ (7 มี.ค.) โดนเขาย้ำถึงกรณีบอลลูนสอดแนม ที่ได้เพิ่มความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจ แม้จะมีความพยายามล่าสุดในการปรับปรุงความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติ “(สหรัฐฯ) ถือว่าจีนเป็นคู่แข่งหลัก และความท้าทายทางการเมืองที่เป็นผลสืบเนื่องมากที่สุด นี่เป็นเหมือนกระดุมเม็ดแรกบนเสื้อที่ติดผิด” ฉินกล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ดี จะยังคงเป็นไปได้หรือไม่ ในขณะที่ความแตกต่างระหว่างสองประเทศมีเพิ่มมากขึ้น โดยฉินตอบกลับว่า สหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการสร้าง "แนวป้องกัน" แต่สิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการจริงๆ คือ ไม่ให้จีนตอบโต้ด้วยคำพูดหรือการกระทำเมื่อถูกยั่วยุ ทั้งนี้ ฉินอ้างถึงความคิดเห็นของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้วว่า สหรัฐฯ จะ “แข่งขันอย่างเต็มที่กับจีน แต่ (จะไม่) ขัดแย้ง”
ฉินกล่าวว่า "หากสหรัฐฯ ไม่เหยียบเบรก และยังคงคำรามไปตามถนนที่ไม่ถูกต้อง ราวกั้นจำนวนเท่าใดก็ไม่สามารถหยุดการตกรางและการพลิกคว่ำได้ และจะต้องตกอยู่ในความขัดแย้งและการเผชิญหน้า ใครจะเป็นผู้แบกรับหายนะของผลที่ตามมากันหรือ"
นอกจากนี้ ฉินยังกล่าวด้วยว่า วิกฤตทางการทูตที่เกิดจากเหตุการณ์บอลลูนสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สหรัฐฯ ดำเนินการด้วย "การสันนิษฐานว่าผิดไว้ก่อน" โดยก่อนหน้านี้ ทางการสหรัฐฯ กล่าวหาว่าบอลลูนที่ต้องสงสัยว่าใช้เพื่อการสอดแนมเป็น "การละเมิดอธิปไตยของสหรัฐฯ อย่างชัดแจ้ง" จากจีน ในขณะที่จีนยอมรับว่าวัตถุดังกล่าวเป็นของพวกเขา แต่อ้างว่ามันเป็นบอลลูนของพลเรือนที่ปลิวออกนอกเส้นทาง
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศตกต่ำลงในสมัยรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเปิดฉากสงครามการค้ากับจีนในปี 2561 โดยปัจจุบันนี้ มหาอำนาจทั้งสองยังคงปะทะกันในประเด็นต่างๆ รวมถึงไต้หวัน การเสริมกำลังทางทหารในทะเลจีนใต้ของจีน และต้นกำเนิดของโควิด-19
ความเห็นของฉินมีขึ้นหลังจาก สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ตำหนิสหรัฐฯ โดยตรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 มี.ค.) โดยสีกล่าวว่า "ประเทศตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ใช้การกักกัน การปิดล้อม และการปราบปรามอย่างรอบด้าน" ต่อจีน และได้นำ "ความท้าทายที่รุนแรง" มาสู่ประเทศของพวกเขา
ในการแถลงเดียวกันวันนี้ ฉินกล่าวว่า "มือที่มองไม่เห็น" กำลังขับเคลื่อนวิกฤตยูเครน แต่เขาไม่ได้ระบุชื่อประเทศหรือบุคคลใด ก่อนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนจะย้ำว่า จีนไม่ได้จัดหาอาวุธให้กับทั้งสองฝ่ายในสงครามรัสเซีย-ยูเครน และจีนเรียกร้องให้การเจรจาสันติภาพดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ดี ฉินตั้งคำถามว่า "ทำไมสหรัฐฯ ต้องเรียกร้องให้จีนงดส่งอาวุธให้รัสเซีย ในเมื่อ (สหรัฐฯ) ขายอาวุธให้ไต้หวัน" ก่อนที่เขาจะระบุว่า วิกฤตยูเครนได้มาถึง "จุดเปลี่ยนที่สำคัญ" พร้อมกล่าวว่า “การหยุดยิงจะหยุดสงคราม ฟื้นฟูความสงบสุข และเริ่มต้นข้อตกลงทางการเมือง หรือจุดไฟเผา ขยายวิกฤต และลากไปสู่ก้นบึ้งของการสูญเสียการควบคุม”
ฉินในวัย 56 ปี ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ในเดือน ธ.ค. 2565 และเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้าทำหน้าที่ระดับสูง ด้วยวัยที่มีช่วงอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ทั้งนี้ ฉินเข้ามาทำหน้าที่แทนที่ หวังอี้ ซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือน ต.ค.ปีเดียวกัน นอกจากนี้ ฉินยังผู้ช่วยที่ได้รับความไว้วางใจจาก สีจิ้นผิง และเขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักการทูตที่พูดข่มคนอื่นเก่ง
ที่มา: