การุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกลาโหม กล่าวในหอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรหรือ วปอ. ว่า “ช่วงที่ผ่านมาใช้อำนาจมาเยอะ ตั้งแต่เป็น ผู้นำกองทัพจนมาถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบัน เบื่อการใช้อำนาจ ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าวันหน้ามีคนที่เก่งกว่าผม ซื่อสัตย์กว่าผม ซื่อสัตย์เหมือนผม ทำงานเหล่านี้ต่อไป ก็พร้อมที่จะส่งไม้ต่อ”

การุณ กล่าวว่า อยากให้ติดตามความเห็นในสื่อโซเชียลของประชาชนว่าคนส่วนใหญ่รู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ ชอบยกย่องตัวเองว่าเป็นคนเก่งและซื่อสัตย์มากกว่าคนอื่น เพราะคนส่วนใหญ่เห็นว่า การพูดเช่นนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการพูดปกป้องตัวเองเท่านั้น เพราะไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่ยึดอำนาจมาจากประชาชน และยังให้พวกพ้องเขียนรัฐธรรมนูญฉบับลายพรางเพื่อให้ตัวเองสืบทอดอำนาจมาได้ถึงทุกวันนี้

การุณ กล่าวต่อว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อเช่นนั้นจริงๆ ตัวเองดีและเก่งกว่าใคร ก็ถือว่าเป็นคนที่หลงตัวเองเกินกว่าที่จะให้ใครมาเยียวยา แม้ตนเองจะอยู่ดอนเมืองแต่ก็มีพรรคพวกที่เป็นทหารอยู่ไม่น้อย เมื่อถามถึงประวัติการรับราชการและฝีไม้ลายมือของบิ๊กตู่ในช่วงที่รับราชการอยู่ในกองทัพ ตนเองไม่เคยได้ยินคำชมเชยเลยสักครั้ง มีแต่นินทาให้ฟังว่าเส้นสายแกดีเลยได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแบบวีไอพีมาตลอด ซึ่งสอดคล้องกับเสียงของประชาชนที่ออกมาก่นด่าและไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากไร้ความสามารถในการบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้

“การหลงตัวเองของ พล.อ.ประยุทธ์ คือความหายนะอย่างแท้จริง เพราะเชื่อว่าทุกสิ่งที่ตนเองทำสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ปัญหาต่างๆ จึงไม่ได้รับการแก้ไข และการใช้อำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริงก็ทำให้ประเทศตกต่ำ เศรษฐกิจถดถอย สังคมเสื่อมทรามลงไปเรื่อยๆ

"ขณะนี้เหลือตัวเลือกเพียงประการเดียวที่พอจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ แก้ตัวได้ หากต้องการเป็นคนดีให้คนทั้งชาติสรรเสริญ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณาตัวรีบลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้เร็วที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นครั้งแรกที่มีคนยกย่องว่าบิ๊กตู่ว่าเป็นคนดีอย่างแน่นอน” การุณ กล่าว

แรมโบ้ บอกลาออกไม่แฟร์

สุภรณ์ อัตถาวงศ์ เจ้าของฉายา แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงหน่อยสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานก่อตั้งสถาบันสร้างไทย เสนอทางออกประเทศในการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ เป็น พ.ร.ก.พร้อมเสนอให้รัฐบาลออกกฎหมาย 3 ข้อหยุดความขัดแย้ง ให้นายกฯลาออกเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น

เรื่องนี้ตนขอยืนยันว่า นายกฯ มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาและหาทางออกให้กับประเทศตลอด เห็นได้จากที่ผ่านมา พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งเปิดสภาฯ สมัยวิสามัญเพื่อให้มีการพูดคุย พร้อมทั้งเห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์และ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ส่วนตัวมองว่า หากทุกฝ่ายทั้งฝ่ายค้านและแกนนำผู้ชุมนุม มีความจริงใจที่อยากจะแก้ไขปัญหาให้กับประเทศอย่างแท้จริง ก็สามารถร่วมมือกันได้ โดยไม่ต้อง ออก พ.ร.ก.ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ หรือออกกฎหมาย 3 ข้อ ตามที่คุณหญิงสุดารัตน์ฯ เสนอ

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า นายกฯ มีความจริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะนายกฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอให้ตัดอำนาจของ ส.ว.รวมทั้ง พร้อมรับฟังข้อเสนอต่างๆจากทุกฝ่าย แต่การที่คุณหญิงหน่อยฯ จะให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งเมื่อแก้รัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ดูเหมือนจะไม่เป็นธรรมกับนายกฯ ที่เข้ามาตามรัฐธรรมนูญ และนายกฯ ต้องทำงานให้ครบเทอม ซึ่งคุณหญิงและพรรคเพื่อไทยก็ควรรอเวลานั้นก่อน ไม่ใช่เอะอะก็จะให้นายกฯ ลาออกอย่างเดียว เพียงเพราะตัวเองและพรรคเพื่อไทยอยากจะเป็นรัฐบาล ทั้งนี้ก็ต้องไปต่อสู้กันตามกระบวนการของประชาธิปไตย

ส่วนการที่ ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เตรียมเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะอดีตนายกฯ ขอความเห็นแก้วิกฤตการเมืองนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ซึ่งมั่นใจว่า จะได้รับข้อเสนอที่ดี และหาทางออกให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี