จอห์นสันชนะมติไม่ไว้วางใจไปด้วยคะแนนเสียง จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนุรักษ์นิยม 211 คะแนนที่ลงมติไว้วางใจ ในขณะที่มีคะแนนไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร 148 คะแนน ทั้งนี้ จอห์นสันกล่าวถึงการชนะการลงมติไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ว่าเป็นชัยชนะ “อันเด็ดขาด”
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรยังได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า ผลการลงมตินั้น “ดีมาก” “น่าเชื่อถือ” และเป็น “โอกาสในการทิ้งสิ่งที่สื่อเอามาเล่นเอาไว้ข้างหลังพวกเรา” ผลการลงมติไว้วางใจจอห์นสันในครั้งนี้ จะทำให้เขายังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศต่อไป ในขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่า เสียงในพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวนหนึ่งแสดงออกถึงการต่อต้านต่อตัวจอห์นสัน
ภาพสะท้อนดังกล่าวชี้ว่า อำนาจของจอห์นสันในพรรคอนุรักษ์นิยมมีความอ่อนแอลงไปมาก ทั้งนี้ มีสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่งเรียกร้องให้จอห์นสันลาออกจากตำแหน่ง โดยคะแนนไว้วางใจจอห์นสันในครั้งนี้ มีอัตราที่ต่ำกว่าครั้งที่ เทเรซา เมย์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรคนก่อนได้รับที่ 63% เมื่อเธอชนะการลงมติไม่ไว้วางใจของพรรค จากประเด็นการนำสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปเมื่อปี 2561 ทั้งนี้ เมย์ลาออกจากตำแหน่งในเวลา 6 เดือนต่อมา เนื่องจากพบกับทางตันของข้อตกลงเบร็กซิต
เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคแรงงานระบุว่า “ความแตกแยก” ของพรรคอนุรักษ์นิยม “กำลังประคับประคอง” ให้จอห์นสันรอดชีวิตจากการลงมติไม่ไว้วางใจ ในขณะที่ เซอร์ เอ็ด เดวีย์ หัวหน้าพรรคลิเบอรัลเดโมแครตระบุว่า จอห์นสันกำลังยึดติดกับอำนาจ ในขณะที่ "ชื่อเสียงของเขาพังยับเยิน และอำนาจของเขาถูกยิงถล่มอย่างสิ้นเชิง"
กระแสการเปิดมติไม่ไว้วางใจต่อหัวหน้าพรรคอนุกรักษ์นิยมอย่างจอห์นสัน เกิดขึ้นเมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดปาร์ตี้งานวันเกิดของจอห์นสันเอง ที่บ้านพรรคหมายเลข 10 ในขณะที่สหราชอาณาจักรมีการประกาศใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ซึ่งมีคำสั่งห้ามการรวมตัวกัน ทั้งนี้ จอห์นสันถูกตำรวจสั่งปรับจากการที่เขาเข้าร่วมงานวันเกิดที่แหกมาตรการคุมโควิด-19 เมื่อช่วง มิ.ย. 2563
การปรับเงินจอห์นสันทำให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกขณะดำรงตำแหน่งของสหราชอาณาจักร ที่ถูกลงโทษจากการละเมิดกฎหมายของประเทศ นอกจากนี้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนุรักษ์นิยมหลายคนยังกล่าวหาอีกว่า จอห์นสันไม่สามารถจัดการปัญหาการขึ้นภาษี ตลอดจนการตอบรับของรัฐบาลต่อปัญหาค่าครองชีพที่แพงขึ้น และการวางทิศทางของนโยบายของพรรค
ที่มา: