ไม่พบผลการค้นหา
'ชลน่าน'​ เผยอำนาจรักษาการนายกฯ แต่งตั้ง ขรก.สามารถทำได้ พร้อมตรวจสอบหากไม่ชอบธรรม หวั่น 'ยุบสภา'​ เกิดสุญญากาศ​ ไม่เกิดการเลือกตั้ง-เล็งยื่นรายชื่อเพิ่มพยานสืบปม 8 ปี นายกฯ

วันที่ 30 ส.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อ​ไทย​ กล่าวถึงอำนาจการปฏิบัติ​หน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี​ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์​สุวรรณ​ ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.)​ ว่า อำนาจของรักษาการนายกรัฐมนตรี​ในการปฏิบัติ​หน้าที่โยกย้ายข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น มันมีข้อถกเถียงพอสมควร แต่คนที่ยืนยันว่าทำได้คือผู้ดูกฎหมายของฝ่ายรัฐบาล​ การเป็นรักษาการ​นายกฯ มีอำนาจเต็ม สามารถทำหน้าที่แทนนายกฯ ได้ ปัญหาใดๆ เป็นข้อถกเถียงก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริง ถ้าการใช้อำนาจส่งผลเสียต่อประเทศชาติบ้านเมือง ฝ่ายค้านก็จะไปติดตามตรวจสอบ ว่ามันชอบด้วยกฎหมาย​ และชอบธรรมหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวของการยุบสภาว่า อำนาจของรักษาการนายกรัฐมนตรี​สามารถทำได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แม้จะอยาดให้รัฐบาลคืนอำนาจให้กับประชาชน ถึงแม้ฝ่ายบริหาร และฝ่ายรัฐสภาจะไม่ได้มีข้อขัดแย้งกัน แต่ 8 ปีที่อยู่มา ก็ควรคืนอำนาจให้กับประชาชน 

นพ.ชลน่าน เสริมว่า แต่ทั้งนี้การยุบสภาในช่วงนี้ไม่เหมาะสม เพราะจะเกิดสูญญากาศ​ทางการเมือง​ และจะไม่เกิดการเลือกตั้ง หรือหากเกิดการเลือกตั้งก็จะนำไปสู่การใช้กลไกที่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติ​รัฐธรรมนูญ​ ขณะที่ตามรัฐธรรมนูญ​ ปี 2540 2550 และ2560 พระราชกำหนด​ (พ.ร.ก.) สามารถใช้แทนพระราชบัญญัติ​ (พ.ร.บ.)​ แต่กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งเป็นพระราชบัญญัติ​ประกอบรัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.) ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาตามมา และอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ หรือหากจะมีการใช้ประกาศจากคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ ก็ต้องดูว่ามันชอบด้วยกฎหมาย​หรือไม่ 

ถึงแม้จะมีบางคนเสนอว่าถ้าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทางออกคือให้ใช้ มาตรา 5 ที่ว่าด้วย บทบัญญัติใดขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ​ อันบังคับใช้ไม่ได้ ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข​ ซึ่งก็ต้องไปดูว่าประกาศของกกต. มันทำได้ และชอบด้วยกระบวนการวิธีการหรือไม่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเพื่อให้เกิดความชัดเจน ควรยื่นให้ศาลตรวจสอบอำนาจรักษาการนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า ต้องให้ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ดูข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายว่าจำเป็นต้องทำขนาดนั้นหรือไม่ ส่วนตัวยังไม่มีความรู้เท่านั้น

นอกจากนี้ กรณีของ อดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านฯ แถลงข่าวผลการประชุมผู้นำฝ่ายค้านเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.)​ ที่จะมีการเสนอชื่อบุคคลให้ความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นพ.ชลน่าน ตอบว่า 2 ท่านนั้นที่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งไว้ (มีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน กรธ. และปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการ กรธ.) อาจจะน้อยไป เราในฐานะผู้เริ่มต้นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ร้องนั้น จึงจะขอเพิ่มเติมพยาน ซึ่งรายชื่อมีในใจแล้ว แต่ขอปิดรายชื่อไว้ก่อน 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนจะดำเนินการปรึกษากับ สุขุมพงษ์ โง่นคำ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านกฎหมาย เพื่อเสนอบุคคลในจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งจะพยายามดูให้ครอบคลุม เพื่อถ่วงดุลกันกับรายชื่อพยานทั้งสอง