วันที่ 5 มี.ค. 2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อม ส.ส.นครราชสีมา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย พบปะหารือกับตัวแทนผู้ประกอบการและนักธุรกิจในจังหวัดนครราชสีมา นำโดยประธานหอการค้าจังหวัด เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานชมรมรถโดยสารประจำทางโคราช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครราชสีมาและนายกสมาคมโรงแรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังปัญหาและเสียงสะท้อนเพื่อรวบรวมข้อมูลนำไปจัดทำนโยบายพรรคในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมองเห็นศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีความสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่และภาคอีสาน โดยพรรคเพื่อไทยมีแนวนโยบายในเรื่องเขตธุรกิจใหม่ ที่จะช่วยลดข้อจำกัดไปพร้อมกับการเพิ่มสิทธิประโยชน์ สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมในการประกอบธุรกิจให้ผู้ประกอบการทุกระดับ โดยเฉพาะข้อจำกัดในเรื่องกฎหมาย
"ดังนั้นเราจึงพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอต่างๆ เพื่อนำไปสู่การประกอบเป็นนโยบายของพรรคและนโยบายรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาในทุกด้าน" นายแพทย์ชลน่านกล่าว
ขณะที่ แพทองธาร กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา มีความพร้อมและมีศักยภาพในหลายด้าน พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในภาพใหญ่ที่จะดึงนักท่องเที่ยวทั้งประเทศ อาทิ การสร้างสนามบินเพิ่้มในหลายพื้นที่ ในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ผ่านมาเราได้พูดคุยกับหลายๆ กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มซอฟต์เพาเวอร์ ที่จะเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพให้มากขึ้น
"โดยเราจะแก้ไขข้อจำกัดโดยเฉพาะด้านกฎหมาย เพื่อลดความซ้ำซ้อน ลดการผูกขาด ลดความเหลื่อมล้ำ ลดอุปสรรคต่อการเติบโตของผู้ประกอบการ รวมไปถึงแนวทางการเพิ่มทุนให้ผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบธุรกิจ" แพทองธารกล่าว
โดยในส่วนของตัวแทนผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ฝากความหวังพรรคเพื่อไทยพิจารณามาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการด้านต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจในจังหวัดและพื้นที่ภาคอีสานขยายตัวได้ โดยจังหวัดนครราชสีมา มีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ต่อหัวประชากร จาก 1.2 แสนบาทต่อคนต่อปี เป็น 2 แสนบาทต่อคนต่อปี ซึ่งผู้ประกอบการเชื่อว่ามีความพร้อมในการประกอบธุรกิจทุกด้าน มีโรงงานอุตสาหกรรมมากที่สุดในภาคอีสาน รวมไปถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจสำคัญ หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาลก็ขอให้เร่งสนับสนุน โดยเฉพาะในส่วนของระเบียงเศรษฐกิจภาคอีสาน ที่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสานไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ยังขอให้พรรคเพื่อไทยพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าที่ขณะนี้ค่อนข้างจะสูงจนกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ การปรับขึ้นของค่าไฟฟ้าของไทยในปัจจุบันแพงกว่าในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ยากต่อการดึงดูดนักลงทุน ในส่วนของการคมนาคนนั้น รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ เป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องเร่งดำเนินการ หรือแนวคิดเรื่องสนามบินของจังหวัดนครราชสีมาซึ่งจะต้องพิจารณาร่วมกับการสร้างอุปสงค์การเดินทางเชื่อมโยงจังหวัดต่างๆ ไปพร้อมกัน และอีกปัญหาสำคัญคือ มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดใช้บริการได้ หากเร่งรัดให้เปิดบริการให้ได้เร็ว ก็จะเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งและจะเป็นตัวจักรสำคัญในการพลิกชีวิตคนโคราช นอกจากนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ก็ได้ฝากให้พรรคเพื่อไทยพิจารณามาตรการสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากที่จะเป็นตัวจักรสำคัญในการหมุนเวียนเศรษฐกิจของประเทศ