ตลาดกาแฟไทยเติบโตขึ้นมากในปัจจุบัน ทั้งในแง่ยอดขาย และจำนวนร้าน ขณะที่หนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตาคือ 'กาแฟแคปซูล' ที่เริ่มมีตัวเลือกหลากหลายทั้งรสชาติ และเครื่องชง ตลอดจนความสะดวกสบายที่เพียงแค่ปลายนิ้วก็ได้กาแฟคุณภาพดีร้อนๆ ไว้จิบในทุกโมงยาม

ด้วยคอนเซ็ปต์ง่ายๆ ที่ดีทั้งรสชาติ และสอดรับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ทำให้กาแฟแคปซูล กลายเป็นตัวเลือกที่เข้าไปนั่งในใจผู้คนมากมายในปัจจุบัน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เนสเพรสโซถือเป็นค่ายกาแฟแคปซูล ที่เน้นนำเสนอรสชาติกาแฟ 'แท้จริง'

กล่าวคือ แคปซูลทุกรสชาติที่วางขายในไทย ยังคงเป็นแคปซูลกาแฟดำ ไม่มีการเจือนม หรือคอฟฟี่เมทใดๆ เข้าไปเหมือนเจ้าอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากเนสเปรสโซระบุว่า ปัจจุบัน 3 ใน 4 ของผู้ดื่มกาแฟทั่วโลกชื่นชอบการดื่มเมนูกาแฟนมเป็นอย่างมาก ทำให้เนสเปรสโซตัดสินใจเปิดตัว 3 รสชาติใหม่ ซึ่งเป็นกาแฟที่สามารถนำมาทำกาแฟนมที่รสชาติลงตัวที่สุดได้ โดยฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเนสเพรซโซ ได้ทำการทดลองกับกาแฟ 18 ประเทศต้นกำเนิดทั่วโลก และให้ความสำคัญกับเทคนิกในการคั่วบดและผสมเมล็ดกาแฟต่างๆ ร่วมกัน เกิดกาแฟไลน์ใหม่ 'บาริสต้า ครีเอชั่นส์' 3 รสชาติ คอนเซ็ปต์ที่จะทำให้คอกาแฟสามารถเป็นบาริสต้าเองที่บ้านได้

Cherry to Cup : ไอเดียจากเมล็ดกาแฟสู่แก้ว

ในการสร้าง 3 รสชาติใหม่สำหรับกาแฟผสมนม เนสเพรสโซได้ทดสอบกาแฟคาปูชิโนกว่า 20,000 แก้วจาก 18 ประเทศ และสร้างสรรค์กาแฟต้นแบบกว่า 120 แบบ ทั้งในการคั่วบด ผสมเมล็ดกาแฟชนิดต่างๆ เข้าด้วยกัน วิธีการต้มเพื่อหารสชาติที่ดีที่สุด

นันท์นภัส วิวัฒน์พัฒนกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เนสเพรสโซ ประเทศไทย ยืนยันว่า ด้วยการวิจัยอย่างเข้มข้น และเลือกที่จะคงแคปซูลกาแฟให้ยังคงเป็นกาแฟดำ ทำให้ทั้งสามรสชาติใหม่สามารถนำมาทานกับนมที่ผู้ดื่มแต่ละคนชื่นชอบได้ ไม่เพียงแค่นมวัวเท่านั้น แต่จะเป็นนมอัลมอนด์ หรือนมถั่วเหลือง ก็เข้ากันได้ดีทั้งหมด

รสชาติแรก 'Chiaro' ในภาษาอิตาเลียนแปลว่าแสงสว่าง ให้รสชาติที่เบา ดื่มง่าย จากกาแฟคั่วอ่อน เมื่อผสมฟองนมลงไป จะได้คาปูชิโนที่มีกลิ่นหอมหวานของคาราเมลและบิสกิต

'Scuro' ในภาษาอิตาเลียนแปลว่าความมืด รสชาติจะออกเข้มกว่า Chiaro มีกลิ่นหอมของกาแฟแยกคั่ว ทำให้เมื่อเติมนมลงไป กลิ่นหอมของกาแฟยังคงเด่นชัด และได้รสกาแฟที่เข้มข้น

รสชาติสุดท้าย 'Corto' แปลว่า 'เล็ก' ในภาษาอิตาเลียน ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของรสชาตินี้ที่ต้องการให้เลือกดื่มในรูปแบบช็อตเล็กๆ แบบเอสเพรสโซและเติมนมเพียงเล็กน้อย สไตล์กาแฟกอร์ตาโด เมนูกาแฟท้องถิ่นของสเปน นันท์นภัสเสริมว่า แก้วนี้เหมาะกับผู้ชื่นชอบกาแฟดำที่อยากค้นหารสชาติใหม่ๆ เป็นแก้วที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มทานกาแฟนม

"ตลาดเมืองไทย ราคาตัวกาแฟแคปซูลไม่ต่างกับเมืองนอก ประเทศโซนเอเชียเลย เทรนด์การดื่มกาแฟแคปซูลเองก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ คนไทยกินกาแฟทรีอินวัน หรือกาแฟละลายน้ำเยอะก็จริง แต่ตอนนี้จะเห็นเทรนด์เลยว่าคนไปคาเฟ่มากขึ้น ทานกาแฟสดมากขึ้น ตัวกาแฟแคปซูลเองก็โตตามไปด้วย แม้จะยังตลาดเล็กราว 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนตัวคิดว่ามีโอกาสเติบโตอีกค่อนข้างสูง อย่างโซนยุโรปเองเขาทานกาแฟแคปซูลเป็นเรื่องปกติกันแล้ว คิดว่าในอนาคตไทยก็น่าจะไปในทิศทางนั้นค่ะ"

• นันท์นภัส วิวัฒน์พัฒนกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เนสเพรสโซ ประเทศไทย

ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ สหภาพยุโรป ระบุว่า ชาวยุโรปสนใจกาแฟที่ถูกชงอย่างเฉพาะเจาะจง (Specialty Coffee) มากขึ้น ไม่ใช่แค่กาแฟสำเร็จรูปอีกต่อไป เพราะต้องการค้นหารสชาติที่แปลกใหม่ ขณะเดียวกันก็ยังต้องการความสะดวกสบายด้วย ด้านวิจัยจากยูโรมอนิเตอร์ชี้ว่า โดยในยุโรปตะวันตก เนสเพรสโซมีส่วนแบ่งการตลาดระหว่างปี 2010-2015 คิดเป็น 25 เปอร์เซ็นต์จากตลาดกาแฟแคปซูลทั้งหมด

ขณะที่ในประเทศไทย จำนวนยอดขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี นันท์นภัสบอกว่า ในแต่ละปีเติบโตในตัวเลขสองหลักเลยทีเดียวนั้น อย่างไรก็ตาม ความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น มาพร้อมกับจำนวนแคปซูลใช้แล้วที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ในหลายประเทศจึงมีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลกระทบของแคปซูลใช้แล้วที่กลายเป็นขยะต่อสิ่งแวดล้อมจนกลายเป็นดราม่า เนสเพรสโซประเทศไทยจึงร่วมมือกับโรงงานรีไซเคิลวงษ์พาณิชย์ ในการนำแคปซูลกลับมารีไซเคิล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ให้ได้สูงที่สุด ในทุกส่วน

"ตอนนี้ลูกค้าทานกาแฟแคปซูลค่อนข้างเยอะ ส่วนหนึ่งของแคปซูลกาแฟคืออะลูมิเนียม เพราะเป็นวัสดุที่ดีที่สุดในการกักเก็บอโรมาและตัวกาแฟ แม้ว่าจะย่อยสลายได้ยาก แต่มันสามารถนำมารีไซเคิลได้ไม่รู้จบ เราจึงพยายามกระตุ้นให้ลูกค้านำมารีไซเคิลกับเรา" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เนสเพรสโซ ประเทศไทย บอก

"ทางโรงงานจะเอาแคปซูลไปปั่น จากนั้นแยกอะลูมิเนียมและกากกาแฟออกจากกัน อะลูมิเนียมจะเอาไปหลอมรวมกัน ได้เป็นก้อนอะลูมิเนียมสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ นำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ต่อไป ส่วนกากกาแฟที่ใช้แล้ว นำไปส่งที่เทศบาลชุมชนพิษณุโลก ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการวิจัย เพื่อนำมาพัฒนาเป็นปุ๋ยให้คนในพื้นที่นำไปใช้ฟรีๆ ค่ะ"

โดยให้ลูกค้าสามารถนำแคปซูลที่ใช้แล้วมาคืนที่หน้าร้านเนสเพรสโซทุกสาขา และจุดรับคืน 20 จุดทั่วประเทศ หรือใครซื้อที่ออนไลน์ สามารถนำแคปซูลใส่ถุงซิปล็อกสำหรับส่งคืน แล้วคืนให้กับแมสเซ็นเจอร์ที่มาจัดส่งได้เลย

เนสเพรสโซเปิดตัวในสวิสเซอร์แลนด์ในปี 1986 และเป็นสินค้าที่ทำยอดขายได้อันดับต้นๆ ของสินค้าจากบริษัทสัญชาติสวิสฯ โดยเนสเพรสโซเข้ามาวางขายในไทยตั้งแต่ปี 2015 ปัจจุบันมีวางขายทั้งหมด 25 รสชาติหลัก และเพิ่มอีก 3 รสชาติใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป รวมเป็น 28 รสชาติที่ให้คอกาแฟได้ค้นพบรสชาติซับซ้อนหลากรูปแบบ เอกลักษณ์ของกาแฟคุณภาพ ไปพร้อมๆ กัน