นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือทักท้วงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เพื่อขอให้รอคำวินิจฉัยและลงมติของศาลรัฐธรรมนูญ ในเรื่องวิธีการการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญตามคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินในวันพุธที่ 8 พฤษภาคม ก่อนที่จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ พร้อมขอให้ตรวจสอบผู้สมัคร ส.ส.หลายรายการคุณสมบัติ เพราะเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆอันเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสสตามความหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3) หรือไม่
โดยนายเรืองไกร เห็นว่า หากการรีบสรุปผลการเลือกตั้งเพื่อประกาศรายชื่อ ส.ส.ก่อนจะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอาจจะไม่เหมาะสมอย่างยิ่งและไม่มีเหตุผลที่ กกต.จะรอไม่ได้ ที่สำคัญ ทำพรบเลือกตั้งสสมาตรา 127 กำหนดชัดว่าก่อนประกาศสสเขตต้องสอบสวนให้แน่ใจก่อนว่าการเลือกตั้งบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมและต้องฟังความเห็นผู้ตรวจการเลือกตั้งรวมถึงต้องดูเรื่องร้องเรียนให้ครบถ้วยด้วย ขณะที่ กกต.มี หลายเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ที่มีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก และกรณีการถือหุ้นสื่อมวลชนอีกหลายสิบคดี ถ้าหากยังตรวจสอบไม่ได้ว่าได้คะแนนมาโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ ก็ยังไม่ควรประกาศผล เพราะคะแนนของ ส.ส.เขต จะถูกนำไปคำนวณหา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วย ถ้าไม่รอให้ได้ข้อยุติอาจจะมีการฟ้องร้องตามมา
สำหรับชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อที่นายเรืองไกรร้องให้ตรวจสอบ มีจากของพรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน และพรรคพลังประชารัฐ 5 คน รวมทั้งสิ้น 11 คน อย่างไรก็ตามนายเรืองไกร ยืนยันว่า การรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.ทางการหลังวันที่ 9 พฤษภาคม จะไม่ขัดกับกฎหมาย เพราะ กกต.ได้จากการเลือกตั้งแล้วเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ตามกรอบ 150 วัน หลังกฎหมายเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว และการรับรองผลตามกฎหมายลูกต้องรับรองภายใน 60 วันหลังจากการเลือกตั้งซึ่งยังมีเวลา